วันนี้ (5 สิงหาคม) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้เน้นย้ำให้ประชาชนเลือกชนิดของชุดตรวจ Rapid Test ให้ถูกต้อง ซึ่งต้องเป็นแบบ Antigen Test Kit (ATK) โดยชุดตรวจดังกล่าวจะเป็นแบบเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก และต้องได้มาตรฐานตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รับรอง ซึ่งล่าสุดผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว 17 ยี่ห้อ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนดูคลิปวิดีโอสาธิตได้ที่เฟซบุ๊กกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเป็นแนวทางในการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้อง นอกจากนี้ภาครัฐยังมีการอบรมและสาธิตการใช้ ATK ในสถานประกอบการด้วย
พญ.อภิสมัย ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงกลุ่มที่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดด้วย ATK ดังนี้
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีไข้ อุณหภูมิร่างกาย 37.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป อาจมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยกรมควบคุมโรคเน้นย้ำกลุ่มนี้เรียกว่า PUI ขอให้ตรวจทุกราย เนื่องจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) พบว่า บางช่วงที่มีการรายงาน ผลบวกของกลุ่มนี้มีมากถึง 25%
- กลุ่มที่ไม่มีอาการแต่มีประวัติใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน ถือเป็น High Risk Person จำเป็นต้องตรวจ
- กลุ่มที่มีประวัติเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง
- กลุ่มที่มีอาชีพหรือกิจกรรมเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม พญ.อภิสมัย ระบุว่าการตรวจ ATK แล้วได้ผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) แต่เมื่อไปตรวจด้วย RT-PCR แล้วพบว่าเป็นบวก (พบเชื้อ) สูงกว่า 13% ดังนั้น หากท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงขอให้ยังคงกักตัวและตรวจซ้ำภายหลัง 2-3 วัน เนื่องจากในช่วงแรกเชื้ออาจยังน้อย การตรวจ ATK อาจจะไม่ไวพอ อย่างไรก็ตาม ดีกว่าการที่จะเลี่ยงไม่ตรวจ โดยสิ่งสำคัญคือหากได้ผลตรวจที่ชัดเจนแล้วก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อผลเป็นบวกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบอยู่ที่บ้านก่อน หรือกรณีที่ตรวจที่โรงพยาบาลให้โทรแจ้งกับโรงพยาบาลนั้น กรณีตรวจจากที่อื่นๆ ให้โทร 1330 เบอร์เดียวเท่านั้น หรือสแกน QR Code สบายดีบอต LINE Official Account ได้ ทั้งนี้ เบอร์ 1330 จะเป็นเบอร์หลักในการจัดการดูแลผู้ป่วยเข้าระบบ
ส่วนเบอร์ 1668 เดิมกรมการแพทย์ให้มีไว้เป็นสายด่วนโรคหัวใจฉุกเฉิน และเบอร์ 1669 ตอนนี้ขอสงวนไว้เป็นสายด่วนช่วยชีวิต เพื่อที่จะลดความหนาแน่นที่พี่น้องประชาชนจะโทรเข้าไป จึงขอให้โทร 1330 เพื่อให้ผู้ป่วยสีแดงได้ใช้เบอร์ 1669 สายด่วนช่วยชีวิตและเข้าถึงบริการโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพมหานครรายงานการตรวจ ATK เชิงรุกโดยทีม Bangkok CCRT ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ถึง 4 สิงหาคม 2564 โดยตรวจไปแล้วสะสม 25,970 ราย พบเชื้อ 3,028 ราย คิดเป็น 11.65% ขณะที่ล่าสุดวันที่ 4 สิงหาคม ตรวจ ATK ไปแล้ว 2,111 ราย พบเชื้อ 171 ราย คิดเป็น 8.1%