วันนี้ (11 พฤศจิกายน) กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร รายงานสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 เวลา 05.00-07.00 น. โดยตรวจวัดได้ 39-67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่าเฉลี่ย 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
พบว่าค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 13 เขตคือ เขตวังทองหลาง, เขตปทุมวัน, เขตบางคอแหลม, เขตยานนาวา, เขตคลองสาน, เขตภาษีเจริญ, เขตบางเขน, เขตบางพลัด, เขตสาทร, เขตคลองเตย, เขตบางซื่อ, เขตหลักสี่ และเขตบึงกุ่ม
ศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่ากรุงเทพมหานครโดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่ที่พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเกินกว่าค่ามาตรฐานเพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษ ควบคุมการเผาในที่โล่ง
พร้อมทั้งสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งาน และตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด เพื่อปัองกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด กำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อไม่ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง ลดการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล
ให้รถจัดเก็บขยะในถนนสายหลักและสายรองให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 04.00 น. ของทุกวัน เพื่อลดการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์