วันนี้ (19 เมษายน) ประภัสร์ จงสงวน ผู้อำนวยการกองการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย ประพนธ์ เนตรรังษี คณะกรรมการบริหารพื้นที่ และ ภัทร ภมรมนตรี ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 6 กทม. ลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงช่วย พาริส เจริญศิลป์ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตราชเทวี ลงพื้นที่ตลาดสถานีรถไฟมักกะสัน และบ้านพักพนักงานรถไฟมักกะสัน พร้อมรับฟังปัญหาร่วมกับชุมชนริมทางรถไฟมักกะสัน
ประภัสร์กล่าวว่า กรณีที่การรถไฟเข้าเซ็นสัญญาการทำสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีที่ดินบ้านพักพนักงานรถไฟมักกะสัน แต่กลับไม่มีมาตรการรองรับพนักงานการรถไฟว่าจะให้ไปอยู่แห่งใด เพราะต้องเข้าใจว่าไม่ใช่คิดจะย้ายคนออกก็สามารถทำได้เลย มีทั้งเรื่องโรงเรียนและที่พักอาศัย ที่ต้องมีเวลาเตรียมการ จึงเป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่ารัฐไม่ได้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แต่เป็นการเอื้อให้กลุ่มทุนเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความสงสัยว่ามาตรฐานการจัดการเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร หรือว่าคนรถไฟไม่ใช่ประชาชนหรือ
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่ามีปัญหาด้านความปลอดภัยของคนในชุมชน ทั้งสายไฟ และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจำเป็นจะต้องพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุม เพื่อให้คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางให้ได้ใช้บริการอย่างปกติทัดเทียมให้มากที่สุด
ประภัสร์กล่าวต่อไปว่า พรรคไทยสร้างไทย โดย น.ต. ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 11 และผู้สมัคร ส.ก. ไทยสร้างไทยยกทีม มีนโยบาย Bangkok Creative City ที่จะยกระดับการพัฒนาชุมชน โดยการกระจายงบประมาณไปยังชุมชน เพื่อดึงศักยภาพของพื้นที่ โดยเฉพาะชุมชนริมทางรถไฟที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถสร้างความน่าสนใจของชุมชน สร้างโอกาสในการทำมาหากิน จากวัฒนธรรม วิถีชุมชน และสถาปัตยกรรม รวมถึงของดีของอร่อยเฉพาะถิ่นในพื้นที่มาสร้างจุดเด่นได้ โดยเฉพาะชุมชนประวัติศาสตร์การรถไฟมักกะสันที่มีเรื่องราว สามารถเป็นแหล่งชุมชนการท่องเที่ยวได้ แต่น่าเสียดายว่าชุมชนดังกล่าวอยู่ในข่ายที่ต้องให้ออกจากพื้นที่ตามสัญญาการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
“ผมขอเน้นย้ำพี่น้องประชาชนและคนทำงานการรถไฟให้พิจารณาผู้สมัครฯ เลือกคนที่ทำงานจริงจัง อย่าหลงกลคนที่สร้างภาพไปวันๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่คนทำงาน ซึ่งได้ทำมาอย่างเป็นกระบวนการมาโดยตลอด ที่คำพูดกับการกระทำสวนทางกัน เพื่อสร้างความนิยมให้ตัวเองมีคะแนนสูงขึ้น แต่ลับหลังกลับไปทำอีกอย่าง ผมจึงไม่เชื่อว่าคนเพียงคนเดียวจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที จำเป็นต้องมีทีม ส.ก. คอยสนับสนุนการทำงาน”
ประภัสร์ยืนยันว่า ความตรงไปตรงมาจึงเป็นหัวใจสำคัญที่แสดงออกถึงความจริงใจกับพี่น้องประชาชน จึงขอโอกาสให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจเลือก น.ต. ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 ที่มีตัวตน คิดต่างเพื่อคนกรุงเทพฯ และผู้สมัคร ส.ก. ไทยสร้างไทยยกทีม ที่สำคัญจะได้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และประภัสร์ จงสงวน เข้ามาช่วยพัฒนากรุงเทพมหานครด้วย