วันนี้ (18 พฤษภาคม) สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 3 ลงพื้นที่บริเวณซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) เขตจตุจักร บริเวณตรงข้ามศาลอาญา ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังในระดับสูง และเป็นปัญหาต่อการสัญจรไปมาของประชาชน หลังจากเกิดฝนตกหนักในช่วงค่ำคืนวานนี้ (17 พฤษภาคม)
โดยสกลธีเดินสำรวจบริเวณจุดต่างๆ ที่ได้รับร้องเรียนว่าเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่เคยแก้ไขได้ในทุกครั้งที่มีฝนตกหนักบริเวณนี้ ซึ่งมักจะมีน้ำท่วมเสมอ ส่งผลให้การจราจรติดขัดต่อเนื่องจากในซอยเล็กออกสู่ถนนใหญ่ ตั้งแต่บริเวณถนนรัชดาฯ-ลาดพร้าว ไปจนถึงในพื้นที่ธุรกิจและชุมชนสำคัญอื่นๆ
สกลธีกล่าวว่า ในบริเวณซอยด้านในจะพบว่าหลายจุดยังไม่ได้มีการเปลี่ยนท่อเป็นท่อแบบใหม่ เมื่อเช้าตนไปดูน้ำที่คลองลาดพร้าวมา พบว่าระดับน้ำสูงเกือบเท่าขอบเขื่อน ทำให้ไม่มีที่ให้น้ำไหลระบายลงไป อาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่มีการพร่องน้ำในคลองลาดพร้าว เนื่องจากประเมินปริมาณน้ำฝนที่ผิดพลาด แต่ถ้ามีผู้ว่าฯ ชื่อสกลธี ตนคิดว่าต้องเร่งทำการเปลี่ยนท่อให้เป็นท่อระบบใหม่ทั่ว กทม. เนื่องจากปัจจุบันมีแค่ท่อขนาด 60 เซนติเมตร ซึ่งต้องเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้นให้ได้ เพราะถ้าฝนตกหนักจะรองรับไม่ได้ และไม่มีทางระบายน้ำได้ทันแน่นอน
“ยิ่งในช่วงฤดูฝนนี้ ที่จะมีพายุลูกใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ ก็ยิ่งต้องเร่งรีบทำให้ทัน แต่จากที่ผมพูดคุยกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ก็ได้รับคำตอบว่ามีการเปลี่ยนแล้วในบางส่วนแต่ไม่ได้เปลี่ยนทั้งหมด” สกลธีกล่าว
สกลธีกล่าวด้วยว่า นโยบายที่ตนเคยบอกว่าผู้ว่าฯ จะต้องหาเงินได้และใช้เงินเป็น ไม่ว่าใครที่เป็นผู้ว่าฯ และได้รับเลือกเข้าไป ต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ทันที นั่นก็คือการลอกท่อระบายน้ำ ส่วนอันไหนที่เปลี่ยนได้ก็ต้องเปลี่ยน แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็ต้องวางแผน และเริ่มเรื่องการลอกท่อ เพื่อเป็นการแก้ให้ได้ทั้งระบบ เช่น ในซอยรัชดาฯ 36 ที่ตนมาดูน้ำจะท่วมยาวไปทั้งซอย ดังนั้นต้องยกระดับถนน
“อย่างที่ผมพูดมาตลอดว่าเรื่องน้ำท่วมต้องแก้ไขทั้งระบบ จากที่คุยกับผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้บอกเหมือนกันว่า อยู่มาเป็นสิบปีก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องของงบประมาณ เพราะงบประมาณไม่พอ ถ้าเรายังคงอยู่กับงบประมาณเดิมๆ ที่ต้องรอการจัดสรรจากรัฐบาลก็ไม่สามารถกระจายงบฯ ลงไปช่วยแก้ไข หรือพัฒนาในพื้นที่จุดต่างๆ ได้ ดังนั้นผู้ว่าฯ จะต้องหาเงินเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“นอกจากหาเงินแล้วยังไม่พอ แต่ต้องใช้เงินเป็นด้วย ถ้าหาเงินได้แต่เอาไปทำโครงการใหญ่ 2-3 พันล้าน ในขณะที่พี่น้องที่อยู่ตามตรอกซอกซอยถูกปล่อยให้เดือดร้อนก็ไม่ได้เช่นกัน เมื่อวานผมก็โทรคุยกับ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เขาก็บอกว่า ตรงหลังบ้านเขามีเครื่องสูบน้ำแต่ก็ยังสูบไม่ทัน ซึ่งเรื่องนี้ผมคิดว่าในส่วนของเครื่องสูบน้ำก็อาจจะต้องใช้ระบบ AI เข้ามาควบคุม หรือว่าเป็นระบบที่มันไม่ใช่การควบคุมโดยมนุษย์เพื่อให้ทันท่วงที ให้ระบบคล่องตัวและระบายน้ำได้มากขึ้น ไม่ว่าเป็นใครที่ได้รับเลือกตั้งเข้าไปเป็นผู้ว่าฯ ก็คงต้องเร่งรีบทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด” สกลธีกล่าวในที่สุด