วันนี้ (31 มีนาคม) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ธนกร วงษ์ปัญญา และ พลวุฒิ สงสกุล ผู้ดำเนินรายการของ THE STANDARD ซึ่งรายงานสดบรรยากาศการเปิดรับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ณ ศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สด รสนา โตสิตระกูล ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่เดินทางมาถึงศาลาว่าการ กทม. 2 เรียบร้อยแล้ว
รสนาบอกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการประกาศว่าต้องหยุดโกง กรุงเทพฯ เปลี่ยนแน่ และขอให้เลือกรสนามาเป็นทีม โดยเธอมีเครือข่ายของนักวิชาการที่มาร่วมทีมในขณะนี้ประมาณ 17 คน ซึ่งจะมาช่วยดูส่วนต่างๆ และแม้ทีมของเธออาจจะไม่มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) แต่ก็คิดว่าผู้บริหารก็บริหาร ส่วน ส.ก. ทำหน้าที่ตรวจสอบก็ตรวจสอบ โดยเธอยินดีร่วมงานกับ ส.ก. ทุกค่าย ทุกรัฐบาล ทุกพรรคการเมือง
เมื่อถูกถามถึงความมั่นใจเมื่อต้องพบกับผู้สมัครพรรคใหญ่ มีผู้สนับสนุนหรือมีทุนหนา รสนาระบุว่าอย่าไปสนใจแต่เรื่องฟอร์มใหญ่ เพราะเป็นแค่การทำการตลาด และกระแสมาจากกระสุน แต่ต้องถามว่าการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใช้เงิน 49 ล้านบาทในการหาเสียง ทั้งที่เงินเดือนของผู้ว่าฯ กทม. รวมกัน 4 ปี มีเพียงแค่ 10 ล้านบาท นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ และที่จริงแล้วอาจจะใช้มากกว่า 49 ล้านบาทด้วย เพราะฉะนั้นโครงการใหญ่โตทั้งหลายก็เป็นเพียงการตลาดใช่ไหม แต่ในที่สุดแล้วก็จะนำไปสู่การถอนทุน สู่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ สู่การทำธุรกิจการเมืองใช่หรือไม่
“ดิฉันคิดว่าชาว กทม. ต้องร่วมมือกับดิฉันค่ะ ในการที่จะหยุดโกงให้ได้ เพื่อเราจะได้สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ได้ และเมื่อเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้” รสนาระบุ พร้อมบอกว่าดัชนีความโปร่งใสของไทยนั้นตกต่ำลงทุกปี ถ้าเธอได้รับอำนาจในการเข้าไปบริหาร กทม. เธอจะเข้าไป ‘สะสาง และล้างบางการทุจริตคอร์รัปชัน’ ถ้ามีตรงจุดใดก็ตาม เธอยังย้ำว่ามั่นใจว่าคน กทม. ต้องการเปลี่ยนแปลง กทม. แต่ต้องมาเริ่มกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหยุดโกง
ส่วนใบปลิวของรสนานั้นนอกจากใจความเรื่องการหยุดโกงแล้ว ยังมีการระบุนโยบาย เช่น บำนาญประชาชน 3,000 บาท ของ กทม., การไม่ต่อสัมปทานบีทีเอสและลดค่าตั๋วอยู่ที่ 20 บาทตลอดสาย, ช่วงโควิดจะมีฟ้าทะลายโจรและยาไทยฟรีทุกบ้าน, กระจายงบห้าสิบล้านบาทต่อเขต ติดตั้งกล้อง CCTV ห้าแสนตัว และเลิกรอคิวนาน ยกระดับ 69 ศูนย์อนามัยให้เป็นโรงพยาบาล 24 ชั่วโมง
