วานนี้ (16 พฤษภาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 8 โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านเฟซบุ๊ก ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ภายหลังถูกตั้งคำถามว่าจะทำงานอย่างไรหากต้องทำงานร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ไม่ได้มาด้วยกันได้อย่างไร โดยชัชชาติได้อธิบายว่า การเลือก ส.ก. กับผู้ว่าฯ กทม. แยกส่วนกัน ต่างกับการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่เข้าสภาผู้แทนไปแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ย้ำที่ผ่านมาวาระเลือกผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก. ไม่ตรงกัน แต่ยังทำงานต่อเนื่องกันได้
ชัชชาติอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า หน้าที่หลักของ ส.ก. คือออกข้อบัญญัติและพิจารณางบประมาณ และมีความแตกต่างจาก ส.ส. เพราะสภา กทม. ไม่มีการแบ่งเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล และไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือถอดถอนผู้ว่าฯ ได้ ถึงแม้ผู้ว่าฯ จะส่ง ส.ก. ลงเลือกตั้งพร้อมกัน แต่ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะได้เสียงเกินครึ่ง ดังนั้นผู้ว่าฯ ต้องทำงานร่วมกับ ส.ก. ทุกคนให้ได้
นอกจากนี้ ชัชชาติยังกล่าวถึงข้อดีของการลงสมัครในนามอิสระว่า จะทำให้ประสานงานกับ ส.ก. ทุกพรรคได้ง่าย ที่ผ่านมาผู้ว่าฯ หลายคนที่ลงอิสระหรือไม่มี ส.ก. เป็นเสียงข้างมากในสภา กทม. ก็ทำงานได้ไม่มีปัญหา เช่น พิจิตต รัตตกุล และ สมัคร สุนทรเวช เช่นเดียวกับผู้ว่าการเมืองหลายคนในต่างประเทศก็ล้วนลงสมัครในนามอิสระ เช่น ไมเคิล บลูมเบิร์ก ผู้ว่าการนครนิวยอร์ก, เคอเหวินเจ๋อ ผู้ว่าการกรุงไทเป และ ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว
“การไม่สังกัดพรรคทำให้ประสานงานกับรัฐบาลได้ทุกรัฐบาล ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นพรรคเดียวกันหรือไม่ เราเชื่อมั่นว่า ส.ก. ที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนจะทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ โดยเห็นแก่ประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคหรือกลุ่มการเมือง เราพร้อมทำงานร่วมกับ ส.ก. ที่ประชาชนเลือกมาจากทุกพรรค เพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกเขต ดังนั้นคงต้องถามว่า ส.ก. พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. ที่ไม่ได้อยู่พรรคตัวเองหรือไม่” ชัชชาติกล่าวทิ้งท้าย
