วันนี้ (4 เมษายน) ขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวผลการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) โดยมี สมชัย สุรกาญจน์กุล ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร, วันชัย ใจกุศล กรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร, อภิชัย ทองประสม กรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง
ตามที่ได้เห็นชอบให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. โดยกำหนดวันสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2565 ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร ปรากฏว่ามีผู้มาสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ดังนี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. รวมจำนวน 31 คน แบ่งเป็นผู้สมัครชาย 25 คน ผู้สมัครหญิง 6 คน โดยเรียงตามหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนี้
หมายเลข 1 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
หมายเลข 2 พ.ท.หญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล
หมายเลข 3 สกลธี ภัททิยกุล
หมายเลข 4 สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
หมายเลข 5 วีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ
หมายเลข 6 พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง
หมายเลข 7 รสนา โตสิตระกูล
หมายเลข 8 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
หมายเลข 9 วัชรี วรรณศรี
หมายเลข 10 ศุภชัย ตันติคมน์
หมายเลข 11 น.ต. ศิธา ทิวารี
หมายเลข 12 ประยูร ครองยศ
หมายเลข 13 พิศาล กิตติเยาวมาลย์
หมายเลข 14 ธเนตร วงษา
หมายเลข 15 พล.อ.ต. ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที
หมายเลข 16 ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์
หมายเลข 17 อุเทน ชาติภิญโญ
หมายเลข 18 สุมนา พันธุ์ไพโรจน์
หมายเลข 19 ไกรเดช บุนนาค
หมายเลข 20 อมรพรรณ อุ่นสุวรรณ
หมายเลข 21 นิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ
หมายเลข 22 วรัญชัย โชคชนะ
หมายเลข 23 เฉลิมพล อุตรัตน์
หมายเลข 24 โฆสิต สุวินิจจิต
หมายเลข 25 ประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ
หมายเลข 26 พล.ต.ท. มณฑล เงินวัฒนะ
หมายเลข 27 ภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์
หมายเลข 28 สราวุธ เบญจกุล
หมายเลข 29 กฤตชัย พยอมแย้ม
หมายเลข 30 พงศา ชูแนม
หมายเลข 31 วิทยา จังกอบพัฒนา
ผู้สมัครที่อายุมากที่สุด 75 ปี และอายุน้อยที่สุด 43 ปี
ส่วนผลการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก. 50 เขต รวมจำนวน 382 คน โดยสำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.ก. มากที่สุด ได้แก่ เขตดุสิต และเขตสวนหลวง จำนวน 10 คน สำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.ก. น้อยที่สุด จำนวน 8 เขต ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์, เขตตลิ่งชัน, เขตภาษีเจริญ, เขตหนองแขม, เขตบางพลัด, เขตดินแดง, เขตบางซื่อ และเขตคันนายาว โดยมีผู้สมัคร จำนวน 6 คน
ผู้สมัคร ส.ก. อายุน้อยที่สุด ได้แก่ เขตลาดกระบัง อายุ 25 ปี และอายุมากที่สุด ได้แก่ เขตราชเทวี อายุ 82 ปี
หลังจากปิดรับการสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งภายใน 7 วัน นับแต่วันปิดรับสมัคร คือวันที่ 11 เมษายน 2565 ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และข้อ 97 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หลังจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว หากผู้สมัครไม่มีรายชื่อสามารถยื่นคัดค้านได้ภายใน 3 วัน คือวันที่ 14 เมษายน 2565
สำหรับผู้สมัครที่ประสงค์จัดทำประกาศหรือแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถจัดทำได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
- ประกาศเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขนาดความกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร จำนวนไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง
- ป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขนาดความกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร และยาวไม่เกิน 245 เซนติเมตร จำนวนไม่เกิน 5 เท่า ของหน่วยเลือกตั้ง
โดยขอความร่วมมือผู้สมัครรับเลือกตั้งในเรื่องการปิดประกาศและการติดแผ่นป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นได้ประกาศกำหนด โดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด ความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรง มีทัศนียภาพและทัศนวิสัยที่ดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือยานพาหนะ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่อทางราชการหรือประชาชน และจะต้องไม่เป็นการกีดขวางทางสัญจร การจราจร พร้อมทั้งได้แนบประกาศฉบับดังกล่าว หลักเกณฑ์และวิธีปิดประกาศและแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งของการไฟฟ้านครหลวงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งในวันรับสมัครเลือกตั้ง เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ผู้สมัครสามารถดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ยูทูบ แอปพลิเคชัน อีเมล SMS หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ ได้จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง หรือเวลา 18.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2565
ในส่วนของการดำเนินการเลือกตั้งภายหลังการปิดการรับสมัคร คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในการกำกับดูแลให้การเลือกตั้งดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ตามมาตรา 27 ได้แก่
- เสนอแนะและให้ความเห็นชอบ การกำหนดหน่วยเลือกตั้ง ที่เลือกตั้ง การแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน. หน่วยละ 9 คน) รวมทั้งการอบรม
- การตรวจสอบและให้ความเห็นชอบ บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การเพิ่ม-ถอนชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามที่นายทะเบียนเสนอ
- กำกับ ดูแล และอำนวยการ การลงคะแนนเลือกตั้ง การนับคะแนน การประกาศผลการนับคะแนนของที่เลือกตั้ง
- การกำหนดสถานที่รวบรวมผลคะแนน และการรวบรวมผลคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้ง และรายงานผลการนับคะแนนต่อผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร
- ปฏิบัติการอื่นๆ ตามที่กฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้ หรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ระดับชาติ) มอบหมายในการปฏิบัติงานดังกล่าว คณะกรรมการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครมีอำนาจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคล ช่วยปฏิบัติงานได้ตามสมควร
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง และสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการเลือกตั้ง แต่หากมีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง การเลือกตั้งใหม่ การนับคะแนนใหม่ การยุบสภากรุงเทพมหานคร ให้คณะกรรมการชุดหลังสุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ต้องมีการสรรหาใหม่
อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะยังไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้ายว่าใครจะได้เป็นผู้สมัครตัวจริงในสนามเลือกตั้งหนนี้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพฯ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของการสมัครของผู้สมัครแต่ละราย และตรวจสอบว่าผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องและผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงให้ประกาศรายชื่อผู้สมัครภายใน 7 วันนับแต่วันปิดรับสมัคร นอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้สมัครได้ในภายหลัง หากมีความปรากฏหรือมีการได้รับแจ้งว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
แต่หากไม่มีผู้สมัครรายใดที่หายไปจากรายชื่อผู้สมัครหลังจากนี้ ก็จะถือได้ว่านี่เป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่มีจำนวนผู้สมัครมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งแรกเมื่อปี 2518 เลยทีเดียว