เกิดอะไรขึ้น:
ใน 4Q65TD ยอดขายสาขา (SSS) ของ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) กลับมาเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ YoY (เทียบกับลดลง 0.1%YoY ใน 4Q64 และ 2.4%YoY ใน 3Q65) หรือเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY หากไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B ซึ่ง BJC ได้ปรับลดยอดขายกลุ่ม B2B ที่สามารถทำกำไรได้น้อยใน 4Q65TD
เมื่อพิจารณาจากโมเมนตัม พบว่า SSS ลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ในเดือนตุลาคม จากฝนที่ตกหนักและสถานการณ์น้ำท่วม แต่พลิกกลับมาเติบโตในตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่มีฝน อีเวนต์ World Cup การจัดงานแสดงสินค้าตราของบริษัท (Private Label) และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากสัดส่วนยอดขายกลุ่ม B2B ที่ให้มาร์จิ้นต่ำที่ลดลง ยอดขายสินค้า Private Brand ที่ให้มาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น การบริหารจัดการกิจกรรมส่งเสริมการขายได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานที่ดีขึ้น ซึ่งรวมกันแล้วจะมากเกินพอชดเชยต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่สูงขึ้น (0.9% ของยอดขาย)
ด้านกลุ่ม Non-MSC ยอดขายมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง YoY ใน 4Q65TD โดยได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วและกระป๋องอะลูมิเนียมรีไซเคิลเพิ่มมากขึ้น และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการปรับราคาผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมต้นทุน
ขณะที่มาร์จิ้นกลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ (PSC) จะยังคงได้รับแรงกดดันจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบ (เช่น โซดาแอชและอะลูมิเนียม) ระดับสูง ในขณะเดียวกัน ต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันปาล์มและต้นทุนบรรจุภัณฑ์เยื่อกระดาษนำเข้าที่ลดลงในระยะหลังนี้ อันเป็นผลมาจากเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยลดแรงกดดันต่อมาร์จิ้นในกลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค (CSC)
ทั้งนี้ BJC ยังคงเป้ายอดขายปี 2565 เติบโตในระดับ Low to Mid-teen YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ และคงเป้ารายได้ค่าเช่าเติบโตในระดับ High Teen YoY โดยอัตราการเช่าพื้นที่จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 90% (เทียบกับ 87% ในปี 2564) และให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง YoY บริษัทยังคงเป้าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2565 ลดลง 50bps YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอลงที่กลุ่ม Non-MSC จะได้รับการชดเชยเพียงบางส่วนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้นที่กลุ่ม MSC
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BJC ปรับเพิ่มขึ้น 2.94%MoM สู่ระดับ 35.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.14%MoM อยู่ที่ระดับ 1,616.67 จุด
แนวโน้มผลประกอบการและกลยุทธ์การลงทุน:
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา BJC เป็นหนึ่งในหุ้นที่ Laggard ที่สุดในกลุ่มค้าปลีก โดยราคาหุ้น BJC ปรับตัวขึ้น 5% เทียบกับกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น 12% โดยเฉลี่ย พัฒนาการเชิงบวกของ SSS ที่มีการพลิกกลับมาเติบโตเป็นบวกในตัวเลขเดียวระดับต่ำ YoY ใน 4Q65TD จากยอดขายที่ดีขึ้นในเดือนในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่มีฝนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุน
InnovestX Research คงเรตติ้ง Outperform ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 42 บาทต่อหุ้น และคาดว่ากำไร 4Q65 จะเติบโต YoY โดยได้แรงหนุนจากกลุ่ม MSC อันเป็นผลมาจาก SSS ที่เติบโตและการขยายสาขา ประกอบกับรายได้ค่าเช่าที่ดีขึ้น และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
ขณะที่คาดว่ากำไรปกติปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่องราว 15%YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและรายได้ค่าเช่าที่ฟื้นตัวสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้นสุดฮอต ค่า P/E Ratio สูงทะลุ 500 เท่า
- เช็ก! 10 หุ้น SETHD จ่ายเงินปันผลสูง