เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 สิงหาคม) Bitkub Blockchain Technology ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท เจ้าทุย จำกัด เพื่อยกระดับวงการควายสู่สากล โดยการนำ ‘ใบพันธุ์ประวัติ’ ของควายขึ้นระบบบล็อกเชนในรูปแบบ NFTs (Non-Fungible Token) เป็นครั้งแรกของโลก
โดยทาง Bitkub และ เจ้าทุย เล็งเห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเข้ามาช่วยยกระดับและสามารถต่อยอดวงการปศุสัตว์ไทยให้มีความเป็นสากล ทำให้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติได้รู้จักเกี่ยวกับวงการดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
การร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอด ‘ใบพันธุ์ประวัติสัตว์เลี้ยง’ จากระบบกระดาษ มาบันทึกข้อมูลเหล่านั้นไว้บนบล็อกเชน ซึ่งจะมีการเพิ่มมูลค่าและความโปร่งใสของใบเหล่านั้นโดยการทำให้เป็น NFTs บน Bitkub Chain อีกด้วย
ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลของปศุสัตว์ที่เป็นกระดาษไปสู่ระบบบล็อกเชนให้แก่ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก ‘ใบพันธุ์สัตว์’ จะมีข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์หรือตระกูลว่ามีการถ่ายทอดพันธุกรรมอย่างไร มีบรรพบุรุษเป็นอย่างไร เพื่อยืนยันพันธุ์สัตว์แท้ได้ว่าเป็นจริงหรือไม่
โดยเทคโนโลยี NFTs นั้นสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ ‘ใบพันธุ์สัตว์’ ได้จากการที่ทำให้ใบดังกล่าวมีเพียงใบเดียว (Unique) ตรวจสอบได้ โปร่งใส และทำให้ใบดังกล่าวมีสภาพคล่อง (Liquidity) ขึ้นมา ซึ่งในอนาคตหากมีผู้สนใจซื้อ-ขาย NFTs ดังกล่าว ก็สามารถนำไปแลกเปลี่ยนหรือถ่ายโอนสิทธิ์กันในตลาดบนระบบบล็อกเชนต่อได้
ซึ่งระบบดังกล่าวทำให้นักลงทุนหรือผู้สนใจที่ต้องการตรวจสอบพันธุ์ หรือหากต้องการซื้อสัตว์ตัวไหน ก็สามารถซื้อไปพร้อมกับแลกเปลี่ยนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ‘ใบพันธุ์ประวัติของสัตว์’ ได้ผ่านระบบ NFTs ในตลาดอย่างที่ได้กล่าวไปด้วยเช่นกัน
โดยทาง Bitkub ต้องการผลักดันเกษตรกรไทยผ่านการนำระบบบล็อกเชนมาใช้ในวงการ เพื่อให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น เข้าถึงฐานลูกค้าต่างชาติให้มากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มการกระจายตัวของเศรษฐกิจด้วย
