ในวันอังคารที่ผ่านมา (9 มกราคม) Geoffrey Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านคริปโตของ Standard Chartered สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ออกบทวิเคราะห์ประเมินว่าการอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETF จะทำให้ราคา Bitcoin พุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2025
ซึ่งบทวิเคราะห์ดังกล่าวทำนายราคา Bitcoin โดยอิงจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หลังมีการออกกองทุน Spot ETF ของทองคำในอดีต
โดยในช่วงปี 2004 ที่บริษัทจัดการการลงทุนออกกองทุน Gold Spot ETF (SPDR Gold Shares) ขึ้นมา ก็ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว ดึงเงินทุนไหลเข้าหลายหมื่นล้านดอลลาร์
หากเทียบในปี 2004 ที่มูลค่าตลาดรวมของทองคำอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ และสามารถดึงเงินลงทุนเข้ามาถึง 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์ กับมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin ในปัจจุบันที่ 8.6 แสนล้านดอลลาร์ จึงมีโอกาสดึงเงินเข้ามาราว 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ Geoffery ประเมินว่าเงินทุนไหลเข้าขั้นต่ำอยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์เข้ามาใน Bitcoin และมากที่สุดถึง 1.3 แสนล้านดอลลาร์ หากกระแสเก็งกำไรเข้ามาผนวกด้วย ซึ่งก็ให้กรอบไว้ที่ราว 0.5-1 แสนล้านดอลลาร์
โดยทองคำใช้เวลาราว 7-8 ปีหลังจากนั้น กว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น 4.8 เท่า หลังการออกกองทุนทองคำ Spot ETF
ซึ่งทาง Standard Chartered ก็มองว่า Bitcoin จะใช้เวลาและการปรับตัวขึ้นให้ใกล้เคียงกับทองคำ โดยภายในปี 2024 Bitcoin มีโอกาสแตะ 100,000 ดอลลาร์ และภายในปี 2025 มีโอกาสแตะ 200,000 ดอลลาร์
ซึ่งมองเห็นไปในทิศทางเดียวกับที่ Jan van Eck อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ VanEck และบริษัทจัดการกองทุนบริษัทอื่นๆ ที่ต่างประเมินว่า Bitcoin มีโอกาสทำจุดสูงสุดในปี 2024 และจะมีทิศทางการปรับตัวขึ้นในรูปแบบเดียวกับทองคำ
Jan van Eck กล่าวว่า ทองคำและ Bitcoin ทำจุดสูงสุดไปในปี 2021 และในช่วงปีที่ผ่านมา 2 สินทรัพย์นี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกัน แต่ Bitcoin ปรับตัวขึ้นไปไกลกว่าทองคำ
ซึ่งเป็นที่คาดการณ์กันว่า ก.ล.ต.สหรัฐฯ จะอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETF ภายในวันที่ 10 มกราคมนี้ ก่อนจะสามารถเข้าเทรดได้ภายในวันที่ 11 มกราคม
อ้างอิง: