หลังร่วงหนักจนหลุดกรอบ 33,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในที่สุดราคาของ Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก ก็พลิกกลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับราคา 35,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงดึกของเมื่อคืนนี้ (24 มกราคม) ตามรายงานของ CoinMarketCap ส่งผลให้ราคา Bitcoin ฟื้นตัวกลับมามากกว่า 2.2% ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
ล่าสุดเช้าวันนี้ (25 มกราคม) ณ เวลา 07.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 36,303 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ราคา Bitcoin ยังคงร่วงลงต่อเนื่องจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 34,000 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 จนเกือบหลุด 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นผลจากการที่นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณีที่รัสเซียอาจบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ ราคา Bitcoin ขยับเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางขาลง และปรับตัวลดลงต่อเนื่องมากกว่า 50% นับตั้งแต่ที่ขยับพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดอยู่เหนือระดับ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งราคา Bitcoin พร้อมด้วยสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่ร่วงตาม ทำให้มูลค่าตลาดของสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีหายไปกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า
สำหรับแรงฟื้นที่กลับมาเป็นผลจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อก่อนหน้าการประชุม Fed ที่จะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้ เป็นการเข้ามาซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งมองว่า การเคลื่อนไหวของ Bitcoin ในเวลานี้แสดงให้เห็นว่า Bitcoin กำลังเข้าสู่ช่วงของการปรับฐาน แต่อย่าเพิ่งวางใจ เพราะราคาสินทรัพย์ดิจิทัลล้วนมีความผันผวนสูง
ดังนั้นสำหรับในภาพรวม ราคาของคริปโต รวมถึง Bitcoin ยังมีแนวโน้มอยู่ในทิศทางขาลง เห็นได้จากราคาของ อีเทอร์ที่ลดลง 2.1% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สู่ 2,365 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 24 มกราคม โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ร่วงลงอย่างหนักตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนซึ่งอยู่เหนือ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนขยับลดลงเกือบ 36% ในปี 2022
สาเหตุที่ทำให้ราคาโดยรวมของคริปโตยังอยู่ในช่วงขาลงเป็นเพราะมีปัจจัยกดดันจากปัญหาความตึงเครียดในยูเครน ปัญหาความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่อาจเร่งรัดให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกดดันต่อสภาพคล่องของตลาด อีกทั้งยังมีปัจจัยคุกคามจากกรณีที่รัฐบาลหลายประเทศเล็งเข้ามาจัดวางกฎระเบียบในการกำกับดูแลตลาดคริปโต
รายงานระบุว่า ในกรณีของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาให้ตลาดคริปโตอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรืออาจมีการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมากำหนดกฎระเบียบควบคุมธุรกิจดังกล่าว รวมทั้งอาจมีการเรียกเก็บภาษีสกุลเงินคริปโต
ด้านทางการจีนได้สั่งห้ามการทำกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียเสนอให้ระงับการใช้สกุลเงินคริปโต และห้ามการทำเหมืองคริปโตในประเทศ เพราะเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน โดยรัสเซียถือเป็นประเทศที่มีเหมืองขุดคริปโตใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และคาซัคสถาน
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/economy/2022/1/24/bitcoin-rout-sees-30000-floor-emerge-as-next-line-in-the-sand
- https://www.bankrate.com/investing/bitcoin-price-cryptocurrency-january-24-2022/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
