การลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีนักลงทุนต้องใจแข็งพอสมควร เพราะการเคลื่อนไหวของราคามีความผันผวนค่อนข้างสูง ย้อนไปในช่วงค่ำคืนของวันที่ 8 มิถุนายน 2564 (ตามเวลาประเทศไทย) ราคาเหรียญคริปโตฯ หลายๆ สกุล นำโดยบิทคอยน์ ปรับลดลงมาแตะระดับ 30,000 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาในประเทศไทยหลุดระดับ 1 ล้านบาทต่อบิทคอยน์เป็นครั้งแรกในรอบปีนี้
อย่างไรก็ตามช่วงเช้าของวันนี้ (10 มิถุนายน) ราคาเหรียญคริปโตหลายๆ สกุลได้รีบาวด์กลับขึ้นมาอย่างร้อนแรง นำโดยบิทคอยน์เช่นกัน ซึ่งล่าสุดราคาบิทคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 37,255 ดอลลาร์ ส่วนราคาในประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ 1.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมาราว 13% จากวันก่อนหน้า
ส่วนราคาเหรียญอื่นๆ ก็ปรับตัวขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยอีเทอเรียมขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,601 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.11%,เหรียญ XRP ขึ้นมาอยู่ที่ 0.908 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.11% และโดชคอยน์ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 0.341 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9.09%
ทั้งนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีทั้งข่าวที่เป็นปัจจัยบวกและลบซึ่งส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยข่าวที่เป็นปัจจัยเชิงบวกล่าสุดคือ การที่เอลซัลวาดอร์สร้างประวัติศาสตร์เป็นประเทศแรกของโลกที่รับรองให้บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หลังรัฐสภาโหวตผ่านด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 62 จาก 84 เสียง
ส่วนข่าวที่เป็นปัจจัยลบยังเป็นข่าวที่ทางการจีนพยายามเข้ามาควบคุมดูแลตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานที่เพิ่มความกดดันตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศจีน เมื่อผู้ใช้งานออนไลน์ชาวจีนไม่สามารถใช้คำค้นหาแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมอย่าง Binance, OKEx และ Huobi บนเสิร์ชเอ็นจินชั้นนำของจีนอย่าง Baidu, Sogo, Zhihu หรือ Weibo ได้อีกต่อไป
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของภาครัฐในการเซ็นเซอร์และจำกัดการเข้าถึงคริปโตฯ ของประชาชนชาวจีนทั่วประเทศ หลังจากที่รัฐบาลเพิ่งจะปรับปรุงยกระดับกฎหมายเพื่อเข้าจัดการการขุดคริปโตฯ และการซื้อขายคริปโตฯ จนทำให้ราคาของบิทคอยน์ หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของตลาดปรับตัวลดลงราว 45% นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุดไว้เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ราว 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ
เว็บไซต์ข่าวอัลจาซีรารายงานว่า แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ Binance หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Binance มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้เป้าหมายในการควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีของจีนอย่างเข้มงวดมีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ทุนไหลออกจากตลาดเศรษฐกิจจริง รวมถึงป้องกันการเก็งกำไรที่จะเสี่ยงทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ โดยหลายปีที่ผ่านมานักลงทุนชาวจีนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนในคริปโตฯ ที่มากที่สุดในโลก ซึ่งปีที่ผ่านมานักลงทุนชาวจีนทำรายได้จากบิทคอยน์ได้เพิ่มขึ้น 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: