หลังพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 58,354 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.75 ล้านบาท และมีมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ก็ปรับตัวร่วงลง 17.25% มาอยู่ที่ 47,023 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นการดิ่งที่แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยครั้งสุดท้ายที่ราคาบิตคอยน์ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 50,495 ดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ราคาบิตคอยน์ที่ปรับตัวลดลงเป็นผลจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์บิตคอยน์ในตลาดว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจนทำสถิติสูงสุดหลายระลอกภายในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์เพียงเดือนเดียว ราคาบิตคอยน์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 60%
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวส่วนใหญ่ต่างเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวของการปรับลดราคาบิตคอยน์ในครั้งนี้ กับการออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับราคาบิตคอยน์ของ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจเจ้าของ Tesla ที่ระบุว่า ราคาบิตคอยน์อยู่ในระดับที่สูงเกินไปในขณะนี้
เหตุผลเพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หลัง Tesla ได้ประกาศลงทุนในบิตคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเตรียมรับบิตคอยน์สำหรับการซื้อรถยนต์และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ราคาของบิตคอยน์ก็พุ่งขึ้นเหนือระดับ 44,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นความเห็นในเชิงท้วงติงนี้จึงน่าจะส่งผลฉุดราคาของบิตคอยน์
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Tesla สามารถทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
