จากข้อมูลของ Glassnode ราคาของ Bitcoin ร่วงลงมาราว 55% จากจุดสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 และส่งผลให้นักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin ราว 40% ขาดทุน และจำนวนผู้ที่ขาดทุนจะสูงกว่านี้หากมองเฉพาะนักลงทุนระยะสั้นที่เพิ่งเข้ามาถือครองในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
หากมองเฉพาะ 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีสัดส่วน 15.5% ของกระเป๋าเงินที่ถือครอง Bitcoin ต้องขาดทุนหลังจาก Bitcoin ร่วงลงมาสู่ระดับ 30,000 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับบรรดาหุ้นเทคโนโลยีต่างๆ ที่ปรับลดลง และการที่ Bitcoin มีความสัมพันธ์กับดัชนี Nasdaq อย่างมากในระยะหลัง ทำให้เกิดข้อโต้แย้งที่ว่าคริปโตเคอร์เรนซีอาจไม่สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้
นักวิเคราะห์ของ Glassnode ยังได้ระบุอีกว่า การร่วงลงของราคาเหรียญต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุด ทำให้ค่าธรรมเนียมรวมของธุรกรรมแบบ On-Chain พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 3.07 Bitcoin ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต่างเร่งทำธุรกรรมและยอมเสียค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น เพื่อเร่งให้ธุรกรรมสำเร็จเร็วขึ้น
ค่าธรรมเนียม On-Chain เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญพร้อมกับยอดการฝากที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ซื้อขาย สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนรนของนักลงทุน และยังสะท้อนให้เห็นถึงการที่นักลงทุนพยายามลดความเสี่ยงด้วยการขายออกหรือเพิ่มหลักประกันบนภาวะที่ผันผวนสูงนี้
ระหว่างช่วงเวลาของการขายที่เกิดขึ้นมีการโยกย้ายเงินลงทุนกว่า 3.15 พันล้านดอลลาร์ ทั้งเข้าและออกจากศูนย์ซื้อขายภายในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021
ทั้งนี้ กระเป๋าเงินที่ถือครองมากกว่า 10,000 Bitcoin ถูกบังคับขายออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซึ่งโดยปกติมักจะเป็นกลุ่มที่ซื้อสะสม Bitcoin มากที่สุด ล่าสุดเริ่มอ่อนแรงลงจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2021
นอกจากนี้ ในกลุ่มของบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ Bitcoin หรือคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน อย่างกรณีของ Coinbase ศูนย์ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ ล่าสุดราคาหุ้นก็ร่วงลงมาเกือบ 80% จากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งอยู่ราว 368 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่เพียง 82 ดอลลาร์
ส่วนบริษัทอย่าง MicroStrategy ที่เน้นการลงทุนใน Bitcoin ราคาลดลง 75% มาอยู่ที่ 219 ดอลลาร์ ลดลงจาก 891 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับบรรดาหุ้นขุด Bitcoin ที่ราคาต่างปรับลงถ้วนหน้า ได้แก่ Riot Blockchain -83% และ Marathon Digital Holdings -85%
ขณะที่หุ้นของไทยที่กระโดดเข้าสู่โลกของคริปโตเคอร์เรนซีดูเหมือนจะมีภาพที่แตกต่างออกไปไม่น้อย โดยเฉพาะบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เข้าลงทุนขุด Bitcoin ราคาหุ้นยังยืนบวกได้กว่า 500% จากกลางเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดที่ 594 บาท มาอยู่ที่ 514 บาท ส่วนบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ราคาไหลลงมาแตะ 0.73 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุด 1.22 บาท เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
อ้างอิง:
