วันนี้ (1 สิงหาคม) ที่รัฐสภา วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI กล่าวก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย กรณีถูกบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เตรียมจะยื่นฟ้องร้องจากการออกมาเปิดเผยเรื่องการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้เชิญ BIOTHAI มาให้ข้อมูล เพราะพื้นที่ของคณะอนุกรรมาธิการฯ เป็นพื้นที่ที่ทั้งเอกชนและภาคประชาสังคมหรือประชาชนควรจะให้โอกาสในการค้นหาความจริงเรื่องนี้
การที่เอกชนไม่ได้มาชี้แจงด้วยตนเองอาจจะขาดโอกาสที่ว่านี้ ประเด็นที่เอกชนฟ้อง BIOTHAI หรืออาจจะไม่พร้อมในขณะนี้ แต่มีการแถลงว่าจะดำเนินคดี เป็นโอกาสดีที่หลักฐานอันดีทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าศูนย์กลางการระบาดของปลาหมอคางดำมาจากบริเวณรอบฟาร์มยี่สาร และฟาร์มยี่สารก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่ทำให้เกิดการระบาด เป็นเรื่องดีที่ข้อมูลเหล่านี้จะได้นำเข้าสู่ชั้นศาล และจะได้เห็นหลักฐานอื่นๆ อีกที่ BIOTHAI จะเสนอในโอกาสต่อไป
จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นหลักฐานใดมายืนยันว่าไม่มีการเลี้ยงปลาที่ฟาร์มยี่สารและการส่งตัวอย่างปลาให้กรมประมง โดยวันนี้เอกสารที่ BIOTHAI เตรียมมา ทางคณะอนุกรรมาธิการฯ อาจจะยังไม่เคยเห็นข้อมูลนี้ และอาจจะไม่ได้โฟกัสในประเด็นนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ BIOTHAI จะชี้ให้เห็นถึงรายงานเรื่อง DNA และข้อมูลใหม่ โดยจะต้องหารือกับคณะอนุกรรมาธิการฯ ว่าจะใช้ข้อมูลที่ BIOTHAI มีเป็นจำนวนมากอย่างไร และคนที่รู้เรื่องนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฟาร์มยี่สารมีเป็นจำนวนมาก แต่กลไกที่รัฐและสื่อมวลชนจะเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นเป็นเรื่องที่จะต้องหารือในที่ประชุมวันนี้
วิฑูรย์ยังกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่คณะอนุกรรมาธิการฯ ยังไม่ได้เห็นคือการตรวจ DNA เพื่อหาเส้นทางการระบาดของกรมประมงเมื่อปี 2565 หลายส่วนบ่งชี้ไปที่แหล่งที่มาเดียวกัน หากไปดูอย่างละเอียดนักวิจัยพูดชัดเจน การระบาดที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากการนำเข้า รวมถึงรายงานการระบาดที่ชัดเจน ซึ่งยังไม่มีการเผยแพร่รายงานชุดนี้จากกรมประมงที่ระบุชัดเจนว่าศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่ไหน ที่สำคัญคือข้อมูลที่ BIOTHAI มีอยู่มากกว่าภาพที่โพสต์ไปแล้ว คงต้องใช้ช่องทางและความระมัดระวังของบริษัทว่าจะทำให้เข้าถึงและบริหารข้อมูลอย่างไร
วิฑูรย์กล่าวต่อว่า BIOTHAI อยากจะเชิญเอกชนเข้าร่วม แต่ไม่ประสงค์จะพบปะกันโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่เราทำมาเกือบ 30 ปีของการก่อตั้งองค์กร แต่ในเวทีสาธารณะหรือเวทีที่จัดโดยหน่วยงานที่ต้องการแสวงหาข้อมูล อยากเรียกร้องให้ CPF ซึ่งมีรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้มาให้ข้อมูล จะได้รู้รายละเอียดข้อมูลมากกว่าผู้บริหารว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฟาร์มดังกล่าว