รายงานล่าสุดของ Binance แพลตฟอร์มเทรดคริปโตชั้นนำของโลก รายงานว่า ในปีนี้ (2023) มูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) ของคริปโตปรับเพิ่มขึ้นมาถึง 8.7 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 30 ล้านล้านบาท คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมากว่า 110% นับจากต้นปี (YTD) โดยเป็นการปรับขึ้นมาถึง 55% ในช่วงไตรมาส 4 นี้
การปรับตัวขึ้นมาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากที่ตลาดคริปโตเคยไปทำจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021
โดยเป็นการปรับตัวขึ้นของมูลค่าจาก Bitcoin 162% นับตั้งแต่ต้นปี หนุนจากการเก็งกำไรต่อประเด็นการอนุมัติจัดตั้งกองทุน Bitcoin Spot ETF ซึ่งกองทุน Bitcoin Spot ETF ของ Fidelity เพิ่งลิสต์เข้าไปในตลาดเป็นที่เรียบร้อยในวันศุกร์ (8 ธันวาคม) ที่ผ่านมา รวมทั้งแรงหนุนจากปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะเกิดในช่วงปี 2024
ในรายงานดังกล่าวยังชี้ว่า ในไตรมาส 4 นี้ ยังเป็นไตรมาสแรกในรอบปี ที่มีเงินลงทุนไหลเข้ามายัง 5 เหรียญ Stablecoin ชั้นนำของโลก ทั้งยังมีปริมาณการซื้อขายในตลาด NFTs (Non Fungible Token) ที่เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่อยู่ในแนวโน้มขาลงมานานนับปี
ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบว่าโปรเจกต์คริปโตชั้นนำหลายโปรเจกต์ ที่สามารถทำรายได้จากค่าธรรมเนียมพุ่งขึ้นมาเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนพฤศจิกายนอีกเช่นกัน พร้อมกับพบว่ามีปริมาณเงินที่สะสม (Total Value Locked) บน Decentralized Finance (DeFi) เพิ่มขึ้น 25% นับจากต้นปี โดยเป็นโปรเจกต์บนเครือข่าย Ethereum ผู้นำตลาด
นอกจากนี้ ยังมีกระแสของ SocialFi (Social Finance) หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่ทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมแพลตฟอร์มมีส่วนร่วมในการสร้างรายได้ด้วยเช่นกัน หรือกระแสของ Tokenization ที่นำสินทรัพย์บนโลกความเป็นจริง (Real World Assets) มาทำเป็นโทเค็นบนเครือข่ายบล็อกเชน เพื่อการเชื่อมโลกการเงินแบบเก่าและรูปแบบใหม่เข้าด้วยกัน
รวมไปถึง Zero Knowledge Technology ที่ได้รับกระแสความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่เป็นระบบความปลอดภัยที่พิสูจน์ข้อมูลการทำธุรกรรมได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
ท้ายที่สุดนี้ ในรายงานดังกล่าวชี้ถึงโอกาสในการปรับตัวขึ้นของตลาดคริปโต ว่า หากปัจจัยเศรษฐศาสตร์มหภาคกลับมาดีขึ้น การกำกับดูแลที่กำลังจะชัดเจนขึ้น โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยอาจลดลง และเทคโนโลยีที่กำลังจะมีพัฒนาการเพิ่มเติม ก็มีโอกาสให้เกิดการไหลของกระแสเงินกลับมาที่ตลาดคริปโตได้อีกระลอกหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจยังเร็วไปที่จะบอกว่าคริปโตเข้าสู่ตลาดกระทิงเรียบร้อยแล้ว
อ้างอิง: