Binance รุกธุรกิจคริปโตในบาห์เรน ส่งผลขึ้นเป็นศูนย์กลางตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลแทนที่ดูไบ

Binance แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดินหน้ารุกธุรกิจในตะวันออกกลาง โดยในปีที่ผ่านมา (ธันวาคม) ทาง Binance ได้ไปตั้งบริษัทที่ปรึกษาในดูไบ หากแต่ท้ายที่สุด กิจการศูนย์การแลกเปลี่ยนกลับกำลังได้รับอนุมัติให้ดำเนินในบาห์เรนแบบเต็มที่ก่อน

ทารัล แทบบา ซีอีโอของ CoinMENA บริษัทเอ็กซ์เชนจ์ในบาห์เรนที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศกล่าวว่า บาห์เรนนั้นมีความแตกต่างจากดูไบตรงที่มีการออกกฎหมายและการกำกับดูแลในคริปโตที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ทำให้บริษัทคริปโตในแถบตะวันออกกลางจำนวนมากเลือกไปตั้งฐานในบาห์เรน และยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศ

ด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศบาห์เรนปรับตัวและรับคริปโตมาใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากหลายประเทศในขณะนี้ที่ยังคงแบนคริปโตอยู่อย่างจีนหรืออินเดีย

ทั้งนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศบาห์เรน (CBB) ยังเป็นผู้กำกับดูแลมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เพื่อให้ระบบการรับชำระและการฝากเงินไปมาระหว่างเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น เช่นเดียวกับเอลซัลวาดอร์ที่มองคริปโตเป็นตัวรับชำระสินค้าและบริการ (Legal Tender) ซึ่งแตกต่างจากประเทศจำนวนมากที่มองคริปโตเป็นหลักทรัพย์ ทำให้อยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายกำกับหลักทรัพย์

จากประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นความแตกต่างระหว่างบาห์เรนกับดูไบ เนื่องจากดูไบนั้นไม่ได้มองว่าคริปโตเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน

ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศอาหรับเอมิเรตส์ (CBUAE) กล่าวกับสำนักข่าว CNN ว่า เรายังไม่มองคริปโตในฐานะตัวกลางในการแลกเปลี่ยน แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วที่เราเห็นนั้นเราก็ยังคงติดตามและระมัดระวังอยู่ในขณะนี้เช่นกัน

ทารัลจึงมองว่าการคิดเช่นนั้นของดูไบทำให้การเติบโตของคริปโตในดูไบมีปัญหา มิเช่นนั้นดูไบอาจเป็นศูนย์กลางด้านคริปโตในตะวันออกกลางไปแล้วก็ได้

นอกจากนี้ด้านอุตสาหกรรมการเงินในบาห์เรนคิดเป็นถึง 17% ของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมันของ GDP จากการที่เข้ามาในอุตสาหกรรมคริปโตตั้งแต่ปี 2562

แต่อย่างไรก็ตาม ทางดูไบก็มี Dubai Multi Commodities Centre (DMCC) ผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่จัดโปรเจกต์พื้นที่พิเศษสำหรับคริปโตที่ไม่ต้องจ่ายภาษีและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทางซีอีโอของ DMCC มองว่าเขาไม่อยากที่จะเข้าไปในอุตสาหกรรมนี้เร็วไป แต่ค่อยๆ เข้าไป และเรียนรู้ไปในระยะยาวดีกว่า

ซึ่งทางดูไบเองก็มีการสนับสนุนทางด้านภาษีและการดูแลสำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้ามาทำธุรกิจเช่นกัน ซึ่งทางทาเรล ซีอีโอของ CoinMENA จากบาห์เรน ก็พักอยู่ในดูไบเช่นกัน หรือแม้แต่ซีอีโอของ Binance ก็ได้ซื้อที่พักในดูไบไว้แล้วเช่นกัน

อ้างอิง: