บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ออกมากล่าวเตือนถึงความกังวลของแนวโน้มที่อุณหภูมิโลกจะพุ่งสูงเกินจุดวิกฤตที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนประเมินไว้ว่าจะเป็นจุดอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่กับชีวิตมนุษย์และระบบนิเวศทางธรรมชาติต่างๆ จนยากเกินแก้ไข โดยเขามองว่าความพยายามต่างๆ อาจไม่เพียงพอที่จะกดให้อุณหภูมิเพิ่มไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส
ถึงแม้ว่าบิลจะตระหนักถึงความรุนแรงของวิกฤตครั้งนี้ แต่เขาได้กล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับ CNBC ภายในงาน COP28 Climate Conference ว่าเขายังมีหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยในการทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นงานประชุมด้านสิ่งแวดล้อมประจำปีครั้งใหญ่และสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ
“ผมไม่คิดว่าธรรมชาติมีจุดกำหนดที่ชัดเจนขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าพอเกินอุณหภูมิที่ตั้งไว้แล้วทุกอย่างจะวิกฤต แต่มันเป็นการปรับตัวที่จะต้องอยู่ร่วมกันกับสถานการณ์แบบนี้ให้ได้ เช่น เราอาจมีระบบการเตือนสภาพอากาศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกับภาคการเกษตรเพื่อให้ชาวสวนวางแผนการเพาะปลูกและหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่สภาพอากาศย่ำแย่”
นอกจากนี้ บิลยังมองว่าเราจำเป็นต้องช่วยสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวได้ยากจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเพราะฝีมือมนุษย์อย่างเช่นแนวปะการัง เพื่อพยายามปกป้องระบบนิเวศธรรมชาติให้ได้มากที่สุด “ยังโชคดีที่ความพยายามของเราทำให้อุณหภูมิไม่ไปถึงจุดรุนแรงเกิน 4 องศาเซลเซียส แต่ผมคิดว่าเราน่าจะไม่สามารถกดให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสอย่างที่เคยตั้งเป้าไว้ได้”
ณ จุดปัจจุบัน โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้ว 1.1 องศาเซลเซียส ตามคำกล่าวของนักวิทยาศาสตร์หลายราย แต่ความตกลงปารีสฉบับที่เป็นอยู่ในตอนนี้มีสิทธิ์ที่จะทำให้อุณหภูมิเพิ่มไปถึง 2.9 องศาเซลเซียส ทำให้ UNEP เร่งปรับกฎเกณฑ์ให้รัดกุมมากขึ้นเพื่อลดผลกระทบ เนื่องจากองค์การสหประชาชาติมองว่า 1.5 องศาเซลเซียสเป็นจุดสูงสุดแล้วหากมนุษยชาติต้องการหลีกเลี่ยงวิกฤตสิ่งแวดล้อมขั้นรุนแรง
กลับมาที่มุมมองของบิล เขามีความเห็นว่าความท้าทายของวิกฤตสิ่งแวดล้อมของคนรุ่นต่อไปคือการลดความร้ายแรงของภัยธรรมชาติ “ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ โดยรวมแล้วผมยังมีหวังอยู่นะ แค่ต้องร่วมมือช่วยกัน เพราะอยากให้ลูกและหลานของพวกเราต่อไปอีกหลายๆ รุ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดีกว่าที่เราเคยมีกัน”
อ้างอิง: