ไม่ใช่เรื่องดี? บิล เกตส์ แสดงความคิดเห็นถึงการเข้าซื้อ Twitter ของ อีลอน มัสก์ ว่าจะทำให้แพลตฟอร์ม ‘แย่กว่าเดิม’

บิล เกตส์ ผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีคนสำคัญ ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า การเข้าซื้อ Twitter ของ อีลอน มัสก์ จะทำให้แพลตฟอร์ม ‘แย่กว่าเดิม’

ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ BBC Radio 4’s Today โดยเขายังกล่าวอย่าง ‘มีอารมณ์ขัน’ กับทฤษฎีสมคบคิดที่ทำให้ผู้คนตะโกนใส่เขาบนท้องถนน โดยเกตส์ ผู้ซึ่งบริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อการวิจัยโควิด ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายของการกล่าวอ้างที่แปลกประหลาด

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับทฤษฎีที่ไม่มีมูลจะเติบโตบน Twitter หรือไม่ หลังจากมัสก์วางแผนที่จะซื้อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ เกตส์กล่าวว่า “ผมเดาว่ามันอาจจะแย่กว่าตอนนี้ แต่ก็สามารถดีกว่าได้ด้วย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ศึกมหาเศรษฐี! อีลอน มัสก์ ปะทะคารม บิล เกตส์ ปม ‘Short หุ้น Tesla’ หรือไม่?

อีลอน มัสก์ ซึ่งรับไม้ต่อตำแหน่ง ‘บุคคลที่รวยที่สุดในโลก’ ต่อจากเกตส์ ได้กล่าวหาว่าผู้ก่อตั้ง Microsoft ได้ทำการ Short หุ้น Tesla โดยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผ่านทาง Twitter ของเขา

“เขาไม่จำเป็นต้องทำดีกับผม” เกตส์กล่าว

มัสก์อ้างว่าการ Short ของเกตส์นั้นบ่อนทำลายการทุ่มเทบริจาคด้านสิ่งแวดล้อมของเกตส์เอง ซึ่งเมื่อถูกถามว่าได้ทำตามที่มัสก์กล่าวอ้างหรือไม่ เกตส์ตอบว่า “ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลย ผมมีวิธีกระจายความเสี่ยงของผม”

บิล เกตส์ ยังกล่าวอีกว่าการหย่ากับ เมลินดา เฟรนช์ เกตส์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อมูลนิธิ บิล แอนด์ เมลินดา เกตส์ ซึ่งเป็นมูลนิธิการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

“ชีวิตผมต่างออกไปมาก ลูกๆ ของผมออกจากบ้านไป คนสุดท้ายออกไปเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อปีก่อน การหย่าร้างมันแย่มาก มันเป็นปีที่ยากลำบาก” เกตส์กล่าว

การแต่งงานของทั้งคู่จบลงด้วยรายงานที่ว่าเกตส์มีชู้ โดยในเดือนมีนาคม เมลินดายังกล่าวด้วยว่าเธอไม่เข้าใจทำไมเขาถึงนัดประชุมกับ เจฟฟรีย์ เอปสไตน์ ซึ่งเป็นนักการเงินที่น่าอับอาย

“ฉันไม่ชอบที่เขาได้พบปะกับ เจฟฟรีย์ เอปไสตน์ และใช่ ฉันแจ้งให้เขาทราบอย่างถี่ถ้วนแล้ว” เธอบอกกับ CBS เมื่อเดือนมีนาคม ขณะที่เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเกตส์อธิบายว่ามันเป็น ‘ความผิดพลาด’

เกตส์ยังได้แสดงความคิดเห็นอีกว่าจะไม่เดินทางตามรอยมหาเศรษฐีคนอื่นๆ อย่าง อีลอน มัสก์, เจฟฟ์ เบโซส์ และ เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน ในการทำธุรกิจที่มุ่งสู่อวกาศ ขณะเดียวกันก็จะไม่กระตุ้นให้คนอื่นๆ บริจาคทรัพย์สมบัติของพวกเขาเพื่อการกุศล

“นั่นไม่ใช่ความฝันของผม ความฝันของผมอันดับแรกคือการกำจัดโปลิโอให้สิ้นซาก หลังจากนั้นก็ถึงคิวของมาลาเรีย” เขากล่าวพร้อมกับเอ่ยเตือนว่า ในช่วง 20 ปีต่อจากนี้ โลกอาจจะเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ได้อีก เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับโรคโควิด

อ้างอิง: