วันนี้ (29 มิถุนายน) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล ทันตา เลาวิลาวัณยกุล ผู้ประสานงานกลุ่ม Empower Thailand พร้อมด้วยตัวแทนพนักงานบริการในสถานบริการ อาบอบนวด อะโกโก้ บาร์ คาราโอเกะ และพนักงานบริการอิสระออนไลน์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่าน สมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้เยียวยาช่วยเหลือเป็นเงินจำนวนเงิน 5,000 บาทต่อเดือน จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเปิดร้านตามปกติ และผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการ
เนื่องจากคำสั่งที่ประกาศปิดสถานบันเทิงส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและและธุรกิจบันเทิง ทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้าง โดยไม่มีมาตรการเยียวยาออกมา ไม่ครอบคลุมแรงงานที่ไม่มีประกันสังคม และกลุ่มอาชีพอิสระที่รับค่าจ้างแบบรายวัน เช่น นักดนตรี พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์ พนักงานเชียร์สินค้า พนักงานโบกรถ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดกลางคืน ร้านอาหารข้างทางต่างๆ เป็นต้น
หนึ่งในภาพที่สังคมถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางคือ การตากบิกินีที่บริเวณประตูข้างทำเนียบรัฐบาล
ล่าสุด รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล กรรมการกระจายอำนาจ ซึ่งได้เข้าร่วมสังเกตการณ์กิจกรรมดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นว่า ภาพการตากบิกินีที่ประตูรั้วทำเนียบรัฐบาลของพี่น้องงานบริการ เครือข่ายมูลนิธิ Empower เป็นการสะท้อนปัญหาที่ถูกกดทับด้วย ‘การเติบโตของการท่องเที่ยว’
การมาของโควิดส่งผลกระทบต่อพี่น้องกลุ่มนี้อย่างแสนสาหัสตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ด้วย ‘เส้นความดี’ และ ‘กฎหมายอันเนื่องจากความดี นำมาสู่การตีตรา และการเข้าไม่ถึงการดูแลเยียวยาจากรัฐ ทั้งที่พี่น้องเป็นส่วนสำคัญของท่องเที่ยวไทย
“วันนี้ พี่ปอน-ทันตา เลาวิลาวัณยกุล แห่ง Empower จึงต้องออกมาส่งเสียงต่อรัฐบาลที่ทิ้งพี่น้องไว้ข้างหลังมากว่า 1 ปีนับแต่โควิดรอบแรก พี่ปอนกับผม เรายืนถ่ายภาพชูบิกินี ร่วมกันริมรั้วทำเนียบรัฐบาล เพื่อช่วยให้เสียงของคนไม่มีเสียง เข้าหู เข้าตา ผู้มีอำนาจและสังคมไทยว่า ยังมีพี่น้องอีก 1 กลุ่มที่ถูกทิ้ง ถูกเท และถูกลืม’ รศ.ดร. ธนพร กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์