ไบเดนเตือน โลกอาจเผชิญสงครามทำลายล้าง หากปูตินใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี

วานนี้ (6 ตุลาคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเตือนว่าโลกอาจเผชิญกับ ‘สงครามทำลายล้าง’ (Armageddon) หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี เพื่อหวังพลิกเป็นผู้ชนะในสงครามยูเครน

คำกล่าวในค่ำคืนวานนี้ถือเป็นสารที่ตรงไปตรงมาที่สุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่เขากล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์ ณ งานระดมทุนในนิวยอร์กซิตี้ โดยกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เข้าใกล้ภัยพิบัตินิวเคลียร์มากที่สุดในรอบ 60 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

“นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดวิกฤตขีปนาวุธคิวบา ที่เราเผชิญหน้ากับภัยคุกคามด้านอาวุธนิวเคลียร์โดยตรง หากสิ่งต่างๆ ดำเนินต่อไปตามเส้นทางของมัน” ไบเดนกล่าว ทั้งยังระบุด้วยว่า “ผมไม่คิดว่าการใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีจะไม่จบลงด้วยสงครามทำลายล้าง

“นี่เป็นชายที่ผมรู้จักเขาค่อนข้างดี” ไบเดนกล่าวถึงปูติน “เขาไม่ได้พูดเล่นในวันที่เขากล่าวถึงความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี หรืออาวุธชีวภาพ หรืออาวุธเคมี เพราะกองทัพของเขาทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานเอามากๆ”

ทั้งนี้ อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีแตกต่างกับอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ โดยอาวุธนิวเคลียร์ที่คนส่วนใหญ่คุ้นชินนั้นจะเป็นอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายล้างเมืองทั้งเมือง เหมือนที่กองทัพสหรัฐฯ เคยใช้โจมตีญี่ปุ่นเมื่อกว่า 70 ปีก่อน

แต่อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีที่ไบเดนพูดถึงนั้นจะเป็นหัวรบนิวเคลียร์และระบบยิงที่มีขนาดเล็ก ซึ่งพัฒนาขึ้นในยุคสงครามเย็น และถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับสนามรบหรือการโจมตีแบบจำกัดวง เพื่อทำลายเป้าหมายในพื้นที่เฉพาะเจาะจง เช่น ทำลายแนวรถถังหรือเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสีในวงกว้าง

โดยที่ผ่านมานั้นปูตินและเจ้าหน้าที่รัสเซียบางคนได้ออกมาขู่ว่ารัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อขัดขวางไม่ให้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรสนับสนุนความช่วยเหลือแก่ยูเครนในการต้านกองกำลังของรัสเซีย ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ปูตินอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีแบบพิสัยใกล้เพื่อโจมตียูเครนในสงคราม และบีบให้ยูเครนยอมเจรจาและยกดินแดนให้

แต่หากรัสเซียตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์จริง ก็อาจกลายเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรว่าจะต้องรับมืออย่างไร เพราะยูเครนก็ไม่ใช่ชาติสมาชิก NATO ที่สหรัฐฯ จะส่งกองกำลังเข้าไปช่วยเหลือได้โดยตรง และหากสหรัฐฯ เข้าไปตอบโต้ทางทหาร ก็อาจกลายเป็นว่าจะเอาตัวเข้าไปพัวพันกับสงครามโดยตรง อย่างไรก็ตาม เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่เห็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในเร็วๆ นี้ แต่ก็กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและระมัดระวัง

แฟ้มภาพ: Drew Angerer / Getty Images

อ้างอิง: