ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แถลงแนวทางรับมือสถานการณ์โควิด-19 ช่วง 20.00 น. วานนี้ (11 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 08.00 น. ของวันนี้ (12 มีนาคม) ตามเวลาไทย โดยถือเป็นการแถลงต่อประชาชนในช่วงไพรม์ไทม์ครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่ง และตรงกับวันครบรอบ 1 ปี ของการชัตดาวน์ประเทศเพื่อรับมือวิกฤตแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ระหว่างการแถลง ไบเดนประกาศเป้าหมายสำคัญในการทำให้ประชากรผู้ใหญ่ของทุกรัฐทั่วประเทศมีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม เพื่อฟื้นฟูการดำเนินชีวิตของชาวอเมริกันให้กลับมาใกล้เคียงภาวะปกติ และคาดหวังให้เป็นโอกาสอันดีที่ชาวอเมริกันจะสามารถรวมกลุ่มแบบเล็กๆ กับเพื่อนและครอบครัวเพื่อฉลองวันชาติสหรัฐฯ ในวันที่ 4 กรกฎาคม
“หากเราทำสิ่งนี้ (ฉีดวัคซีน) ด้วยกันภายในวันที่ 4 กรกฎาคม จะเป็นโอกาสอันดีที่คุณ ครอบครัว และเพื่อนๆ ของคุณ จะได้รวมตัวพบปะสังสรรค์กันในสวนหลังบ้าน และร่วมเฉลิมฉลองวันชาติ” ไบเดนกล่าว และยืนยันว่าทั้งประเทศไม่เพียงจะได้ฉลองวันชาติ หรือวันประกาศอิสรภาพ (Independence Day) แต่ยังเป็นการประกาศอิสรภาพจากไวรัสชนิดนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไบเดนเตือนว่าก่อนจะถึงเป้าหมายนั้น อาจมีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมระบุถึงคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ที่กังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ทั้งนี้ ภายใต้แผนฉีดวัคซีนให้ประชากรผู้ใหญ่ทั่วประเทศ ไบเดนจะสั่งการตรงไปยังทางการท้องถิ่นของทุกรัฐให้ขจัดกฎระเบียบต่างๆ ที่จำกัดการเข้าถึงสิทธิ์ในการฉีดวัคซีน ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายความเชื่อมันของรัฐบาลที่ต้องการให้มีวัคซีนโควิด-19 เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคน
นอกจากนี้ ไบเดนยังประกาศเดินหน้าขยายการให้วัคซีน ด้วยการเพิ่มสถานที่ให้วัคซีนแก่ประชาชน และเตรียมเปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนตรวจสอบจุดที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ใกล้ที่สุด พร้อมทั้งอนุญาตให้สัตวแพทย์และทันตแพทย์สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนได้ด้วย ขณะเดียวกันจะส่งหน่วยเคลื่อนที่เดินทางไปฉีดวัคซีนให้ประชาชนในชุมชนห่างไกลและด้อยโอกาสทั่วประเทศ
ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ มั่นใจว่าเขาจะบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกัน 100 ล้านคน ได้ภายในวันที่ 60 นับตั้งแต่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อ 20 มกราคม ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ใน 100 วันแรกหลังรับตำแหน่ง และมั่นใจว่าภายใน 100 วันแรก โรงเรียนระดับ K8 ที่รับนักเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาชั้นต้นทุกแห่งทั่วประเทศจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้อีกครั้ง
ไบเดนยังกล่าวถึงสถานการณ์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากโรคระบาดครั้งนี้ ที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วมากกว่าเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2, สงครามเวียดนาม และการก่อวินาศกรรม 9/11 รวมกัน
“จนถึงตอนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในอเมริกา จำนวน 527,726 คน มากกว่าผู้เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1, สงครามโลกครั้งที่ 2, สงครามเวียดนาม และเหตุการณ์ 9/11 รวมกัน” ไบเดนกล่าว
ขณะที่ไบเดนชี้ว่าการระบาดของโควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันต้องสูญเสียทั้งชีวิตและการใช้ชีวิต และยอมรับว่าวิกฤตโควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันสูญสิ้นศรัทธาต่อรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่าเขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าอเมริกาจะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง
ไบเดนยังเตือนความแตกแยกในหมู่ชาวอเมริกันที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตโรคระบาด เช่น ความเห็นต่างเรื่องการใส่หรือไม่ใส่หน้ากากอนามัย และประณามการก่ออาชญากรรมต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่ถูกคุกคามและโยนความผิดเรื่องการเป็นต้นตอแพร่ระบาด ซึ่งในยุคของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกไวรัสโควิด-19 ว่าเป็น ‘ไวรัสจีน’
ภาพ: Alex Wong / Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: