นักวิเคราะห์เชื่อว่าถ้าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจเลือก เลล เบรนาร์ด ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตลาดมีมุมมองต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ไปในทางที่ผ่อนคลาย หรือ Dovish มากกว่าในกรณีที่ เจอโรม พาวเวลล์ ได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวเป็นวาระที่ 2 อีกเล็กน้อย ซึ่งนั่นหมายถึง Fed อาจใช้เวลานานขึ้นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า
“ตลาดมองว่าเบรนาร์ดมีความเป็นสายพิราบมากกว่าพาวเวลล์เล็กน้อย แต่อันที่จริงจุดยืนในด้านนโยบายการเงินของทั้งสองคนก็ไม่ได้มีความแต่ต่างกันอย่างมีนัย โดยพาวเวลล์ยังมีความได้เปรียบในแง่การได้รับความเชื่อมั่นจากตลาด รวมถึงการมีประวัติเรื่องการตัดสินใจดำเนินนโยบายที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่สนใจแรงกดดันทางการเมือง” เอ็ด มิลล์ นักวิเคราะห์ด้านนโยบายของ Raymond James ระบุ
ด้าน ปีเตอร์ บรอควาร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของ Bleakley Global Advisors มองว่า ปัจจัยทางการเมืองอาจมีผลต่อการตัดสินใจของเบรนาร์ดมากกว่าพาวเวลล์ เนื่องจากเบรนาร์ดมีภาพลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองจากการเป็นผู้บริจาคในแคมเปญการหาเสียงของ ฮิลลารี คลินตัน ในปี 2016
“ผมคิดว่าพาวเวลล์จะสนใจปัจจัยทางการเมืองน้อยกว่าหากเขาต้องตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความเบรนาร์ดจะเอาปัจจัยการเมืองมาประกอบการตัดสินใจถ้าได้รับเลือกให้เป็นประธาน Fed เพียงแต่ตลาดอาจมองไปในทิศทางนั้น” บรอควาร์ กล่าว
ในแง่การตอบรับจากตลาด บรอควาร์ ประเมินว่า ตลาดไม่น่าจะมีการตอบรับอะไรเป็นพิเศษหากพาวเวลล์ได้รับเลือกให้นั่งเป็นประธาน Fed สมัยที่ 2 ต่ออีก 4 ปี แต่ในกรณีที่เบรนาร์ดได้รับเลือก การตอบรับอาจจะต่างออกไป
“ผมคิดว่าถ้าเบรนาร์ดได้รับการแต่งตั้งเราจะได้เห็นการเด้งขึ้นในตลาดหุ้นประมาณ 10 นาที แต่ในตลาดบอนด์การตอบรับอาจมากกว่านั้น เราน่าจะได้เห็น Yield Curve ที่ชันขึ้น” บรอควาร์ กล่าว
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า ถ้าเบรนาร์ดได้รับการแต่งตั้งตลาดจะมีมุมมองต่อเงินเฟ้อไปในทางขาขึ้นมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ยีลด์ของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี และ 10 ปี ถ่างกว้างขึ้นจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์ลงทุนของ CFRA มองว่า ถ้าพาวเวลล์ถูกแต่งตั้งให้เป็นประธาน Fed ต่ออีกหนึ่งสมัย จะส่งผลให้ตลาดหุ้นและบอนด์ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ในกรณีของเบรนาร์ด อาจทำให้นักลงทุนมีความรู้สึกถึงความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในตลาดซึ่งอาจเป็นผลลบ แต่เมื่อดูจากจุดยืนของเบรนาร์ดที่เป็นสายพิราบชัดเจนก็อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นได้เช่นกัน
จิม คารอน จาก Morgan Stanley Investment Management เชื่อว่า ไม่ว่าพาวเวลล์หรือเบรนาร์ดจะได้รับเลือกให้เป็นประธาน Fed ทิศทางการดำเนินนโยบายของ Fed จะไม่มีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากทั้งสองคนต่างเป็นสายพิราบ
“เราต้องเข้าในว่านี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงจากสายพิราบไปเป็นสายเหยี่ยว มันเป็นการเปลี่ยนตัวผู้นำซึ่งมีปรัชญาที่คล้ายกัน” คารอน กล่าว
ที่ผ่านมา เบรนาร์ดได้รับแรงหนุนจากกลุ่มหัวก้าวหน้าในพรรคเดโมแครต ซึ่งต้องการเห็นภาคธนาคารถูกกำกับดูแลเข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าพาวเวลล์จะเป็นผู้ชนะในการแย่งชิงเก้าอี้ประธาน Fed ครั้งนี้ โดยเบรนาร์ดจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ที่กำลังจะว่างลง เช่น รองประธาน Fed หรือ รองประธาน Fed สายกำกับดูแล
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP