นโยบายในการผลักดัน Green Economy หรือเศรษฐกิจพลังงานสะอาดของ โจ ไบเดน เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ผู้นี้ได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว สังเกตได้จากการประกาศดำเนินงานในด้านต่างๆ รวมถึงความพยายามในการพาสหรัฐฯ เข้าร่วมข้อตกลงปารีสอีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ไบเดนได้ออกมาประกาศในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เขามีแพลนที่จะดำเนินการเปลี่ยนยานพาหนะทั้งหมดของหน่วยงานรัฐบาลให้เป็น ‘รถยนต์พลังงานไฟฟ้า’ ที่ถูกผลิตและจดประกอบโดยพลเมืองสหรัฐฯ ในสหรัฐฯ เท่านั้น
“หน่วยงานรัฐบาลกลางของเราเองก็มีรถจำนวนมากในครอบครองอยู่แล้ว ซึ่งเราจะดำเนินการแทนที่ยานพาหนะเหล่านั้นทั้งหมดด้วยยานพาหนะพลังงานสะอาดที่มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ซึ่งถูกผลิตขึ้น ณ ประเทศแห่งนี้ โดยพลเมืองของเราและแรงงาน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจ้างงานกว่าหลายล้านตำแหน่ง” ไบเดนกล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลที่สิ้นสุดเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาพบว่า ยานพาหนะของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 650,000 คัน และมีจำนวนระยะทางการวิ่งรวมทั้งสิ้นราว 7,242 ล้านกิโลเมตรในปีดังกล่าว ซึ่งการประกาศเปลี่ยนแปลงรูปแบบและประเภทของรถยนต์โดยไบเดนในครั้งนี้ ยังถือเป็นหนึ่งในความตั้งใจและมาตรการที่เขาได้ประกาศออกมาในระหว่างการลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ‘Buy American’ อีกด้วย แม้จะยังไม่มีไทม์ไลน์กรอบเวลาในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็ตาม
ขณะที่ The Verge ยังระบุอีกด้วยว่า การประกาศของไบเดนในครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับค่ายรถยนต์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่าง Tesla, Rivian และ Lordstown รวมถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Ford และ General Motors (GM) ที่กำลังให้ความสำคัญในการลงทุนพัฒนายานยนต์ EV อย่างจริงจัง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.theverge.com/2021/1/25/22249237/biden-electric-vehicle-government-fleet-ev
- https://www.cnet.com/roadshow/news/biden-administration-federal-fleet-electric-vehicles/?TheTime=2021-01-26T00%3A10%3A52&PostType=link&ServiceType=twitter&UniqueID=F377697E-5F6A-11EB-B31B-642C0EDC252D&ftag=COS-05-10aaa0b
- https://www.cnbc.com/2021/01/25/biden-plans-to-replace-government-fleet-with-electric-vehicles.html?utm_term=Autofeed&utm_medium=Social&utm_content=Tech&utm_source=Twitter#Echobox=1611616345