ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์รายการ 60 Minutes ของสถานีโทรทัศน์ CBS โดยเตือนอิสราเอลว่า การเข้ายึดฉนวนกาซาจะเป็น ‘ความผิดพลาดครั้งใหญ่’ แต่มองว่าอิสราเอลจะต้องตอบโต้และตามล่ากลุ่มฮามาสที่ก่อเหตุบุกโจมตีและสังหารประชาชนอิสราเอลในหลายเมืองทางตอนใต้ ซึ่งไบเดนชี้ว่า เป็นการก่อการร้ายที่เทียบได้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust)
“ผมคิดว่ามันจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาในความคิดของผมคือฮามาส และองค์ประกอบสุดโต่งของฮามาสนั้นไม่ได้เป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด และผมคิดว่าคงเป็นความผิดพลาดถ้าอิสราเอลจะยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้ง แต่การกำจัดกลุ่มหัวรุนแรงออกไป ทั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่อยู่ทางเหนือของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่อยู่ทางใต้นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น” ไบเดนกล่าว
นอกจากนี้ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า ต้องการเห็นการส่งสิ่งของช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซาและการจัดตั้งระเบียงมนุษยธรรม เพื่อให้พลเรือนออกจากพื้นที่สู้รบ
ทั้งนี้ ไบเดนเชื่อว่ากลุ่มฮามาสจะต้องถูกกำจัดโดยสิ้นเชิงและสนับสนุนการดำเนินการตอบโต้กลุ่มฮามาสต่อไป แต่ในขณะเดียวกันเขายังมองว่า “จำเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานของชาวปาเลสไตน์ และจำเป็นต้องมีเส้นทางสู่การเป็นรัฐปาเลสไตน์”
ขณะเดียวกันสำนักข่าว WAFA ของปาเลสไตน์ รายงานคำกล่าวของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ ในระหว่างการโทรศัพท์สายตรงคุยกับประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ซึ่งประณามการกระทำของกลุ่มฮามาสที่ก่อเหตุโจมตีอิสราเอลเป็นครั้งแรก และชี้ว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสนั้นไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนปาเลสไตน์
“นโยบายและการดำเนินการของกลุ่มฮามาสไม่ได้เป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์ โดยนโยบาย โครงการ และการตัดสินใจ ขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (Palestine Liberation Organization: PLO) นั้นเป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์ ในฐานะตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นตัวแทนเพียงผู้เดียว” อับบาสกล่าว
ขณะที่เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับอิสราเอลของการหยุดการรุกรานในฉนวนกาซาและปกป้องพลเรือนในกาซาโดยทันที ด้วยการเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมเพื่อจัดหาเวชภัณฑ์ น้ำ ไฟฟ้า และเชื้อเพลิง ให้กับพลเมืองของฉนวนกาซา โดยชี้ว่าการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดออกจากฉนวนกาซาจะถือเป็น ‘หายนะครั้งที่ 2’ สำหรับชาวปาเลสไตน์
อ้างอิง: