สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน เตรียมยื่นข้อเสนอกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งมีมูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสในเร็วๆ นี้ โดยข้อเสนอดังกล่าวจะมุ่งเป้าช่วยเหลือครอบครัวที่มีเด็กในวัยเรียนเป็นหลัก
ข้อเสนอหรือแผนใหม่มูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์นี้ ประกอบด้วยการลงทุนประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และการสนับสนุนด้านภาษี 8 แสนล้านดอลลาร์ โดยแผนใหม่ของไบเดนครั้งนี้นับเป็นการโชว์วิสัยทัศน์ และความพยายามยกเครื่องเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยมองข้ามวิกฤตการณ์โควิด-19
สำนักข่าว CNBC เปิดเผยรายละเอียดแผนใหม่โดยคร่าว ดังนี้
- 2.25 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับการดูแลเด็กในครอบครัวอย่างมีคุณภาพ โดยให้ผู้ปกครองรับผิดชอบค่าใช้จ่ายบุตรบางส่วน
- 2.25 แสนล้านดอลลาร์ จ่ายชดเชยให้กับการลาพักร้อนของครอบครัวและค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
- 2 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับดูแลเด็กก่อนวัยเรียนที่อายุ 3-4 ปี ความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น
- 1.09 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับรองรับค่าเล่าเรียนฟรีในระดับวิทยาลัยชุมชน เป็นเวลา 2 ปี สำหรับนักเรียนทุกคน
- ประมาณ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับมอบทุนการศึกษาวิทยาลัยส่วนกลางที่รู้จักกันในชื่อ เพลล์ แกรนต์ส (Pell Grants) และเพิ่มทุนการศึกษาสูงสุดประมาณ 1,400 ดอลลาร์สำหรับนักเรียนที่มีรายได้น้อย
- โครงการให้ทุนการศึกษา มูลค่า 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มอัตราผู้เข้ารับการศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษา
- 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับสนับสนุนค่าเล่าเรียนแก่นักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 125,000 ดอลลาร์เป็นเวลา 2 ปี
- 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับสนับสนุนด้านโภชนาการของเด็ก รวมถึงการขยายการเข้าถึงโปรแกรม EBT ในช่วงฤดูร้อน
- 2 แสนล้านดอลลาร์เพื่อสร้างความต่อเนื่องให้กับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้รอดพ้นวิกฤตโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ผ่านการลดเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับผู้ที่ซื้อความคุ้มครองด้วยตนเอง เป็นต้น
“สิ่งเหล่านี้คือการลงทุนที่เราไม่สามารถจ่ายให้กับประเทศได้ และภายใต้แผนใหม่ของไบเดน ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปีหรือเทียบเท่า จะไม่ถูกจัดเก็บภาษีเพิ่ม” เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงจากฝ่ายบริหารของไบเดน กล่าวผ่านโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว
สำหรับในการจัดหาเงินทุนในการสนับสนุนแผนใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์ทางภาษี บางส่วนอาจจะกลับไปใช้ข้อกฎหมายลดภาษีในปี 2017 ซึ่งเป็นฉบับที่ได้รับการตอบรับที่ดีในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แผนใหม่นี้เป็นความพยายามปิดช่องโหว่ด้านภาษี และสร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศด้วยการเก็บภาษีจากการลงทุนเป็น 39.6% สำหรับครัวเรือนที่ทำรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม อัตราดังกล่าวถูกลดลงเหลือ 37% สำหรับคู่แต่งงานที่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีมากกว่า 600,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ไบเดนจะเพิ่มการเก็บภาษีเงินได้ที่ปัจจุบันจัดเก็บที่ 3.8% และจะเพิ่มอัตราภาษีสูงสุดของค่าจ้างและภาษีกำไรส่วนต่างจากการลงทุนเป็น 43.4% จากเดิม 23.8%
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว กล่าวว่าข้อเสนอใหม่ล่าสุดนี้พยายามที่จะปรับปรุงด้านการศึกษา และตอบสนองต่อความต้องการแรงงานเพศหญิงที่ต้องดูแลเด็กควบคู่ไปกับการทำงานและการเรียนทางไกล ซึ่งมีความยากลำบากมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่แรงงานเพศชายเองก็พบว่าวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้มีแรงงานเพศชายลดลงเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: