บรรยากาศวงการการท่องเที่ยวคึกคักเหลือเกินหลังหลายประเทศพากันเปิดพรมแดนกันไม่เว้นวัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าโลกของเรากำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติในไม่ช้า นอกจากญี่ปุ่นที่เพิ่งประกาศเปิดพรมแดนแบบเต็มพิกัด ล่าสุดประเทศที่มีดัชนีวัดว่า ‘มีความสุขที่สุดในโลก’ อย่าง ‘ภูฏาน’ ก็ประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในวันนี้ (23 กันยายน) เป็นวันแรก พร้อมสโลแกนใหม่ ‘Believe’
แม้การท่องเที่ยวประเทศภูฏานอาจไม่ใช่การเที่ยวชมเมืองหรือความศิวิไลซ์เฉกเช่นหลายเมืองใหญ่ในโลก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านักเดินทางที่มาที่นี่ล้วนแต่ต้องการสัมผัสความเรียบง่าย สูดโอโซนจากอากาศบริสุทธิ์ ชมทิวทัศน์สวยๆ จากเทือกเขาหิมาลัย การท่องเที่ยวของภูฏานจึงเกิดขึ้นในรูปแบบ ‘น้อยแต่มาก’ ซึ่งเป็นนโยบายที่ประเทศใช้มาตั้งแต่ปี 1974
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา ภูฏานใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพัฒนาระบบพื้นฐานภายในประเทศ ภายใต้นโยบาย 3 ด้าน ได้แก่ การปรับปรุงนโบายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างของประเทศ และการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้มาเยือนทุกคน
ก่อนหน้านี้การไปเที่ยวภูฏานจำต้องทำผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น แต่สโลแกน ‘Believe’ ยังหมายถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวภูฏานในรูปแบบใหม่ ที่คุณสามารถจัดแผนการเดินทางได้เองโดยติดต่อกับทีมโฮสต์การท่องเที่ยวภายในประเทศ
อย่างไรก็ดี การเปิดประเทศครั้งนี้มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDF เรตใหม่ จาก 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อคืน เป็น 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อคืน ซึ่งเป็นเงินค่าเข้าประเทศที่นักเดินทางทุกคนจำต้องจ่าย โดยรายได้จะนำไปพัฒนาโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวภูฏาน รวมถึงเรื่องคาร์บอนเครดิตด้วย
สายการบิน Drukair และสายการบิน Bhutan Airlines คือ 2 สายการบินซึ่งบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูฏาน และประเทศไทยยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นหลักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศภูฏาน
สำหรับใครที่สนใจเที่ยวภูฏาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญนี้ได้ที่ www.Bhutan.travel
ภาพ: Shutterstock