×

พรรคภูมิใจไทยหาช่องเอาผิดคณะกรรมการสืบสวนฯ คดีฮั้ว สว. มองเรียกตัวแกนนำพรรคหวังโจมตีให้เสียชื่อเสียง

โดย THE STANDARD TEAM
17.06.2025
  • LOADING...
bhumjaithai-sue-ect-senator-case

วันนี้ (17 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเดินหน้าฟ้องร้องคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยระบุว่า  เบื้องต้นได้ตรวจเช็กรายชื่อทั้งหมดทุกคนที่มีหมายเรียกแล้ว ตั้งแต่หัวหน้าพรรคไปจนถึงกรรมการบริหารพรรคทุกคน และ สส.บางส่วน ตามรายชื่อที่ออกไป 

 

อันดับแรกได้ทำหนังสือขอเลื่อนการชี้แจงออกไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2568 แต่อยู่ที่ กกต. ว่าจะให้ไปชี้แจงวันไหน เนื่องจากในหมายเรียก และข้อกล่าวหาไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดและไม่ได้แนบหลักฐานอะไรมา ดังนั้นสิ่งที่จะรอคือหลังที่มีการยื่นหนังสือขอเลื่อนไปแล้ว กกต. จะอนุญาตให้ไปวันไหน ดังนั้นเรื่องการฟ้องจึงต้องเป็นกระบวนการหลังจากนั้น 

 

บุณย์ธิดากล่าวต่อไปว่า เมื่อตรวจสอบหมายเรียกและนำของหลายคนมาเทียบ เห็นได้ชัดว่าหนังสือทุกตัวอักษรเหมือนกัน เปลี่ยนแค่หัวชื่อ และไม่ได้ระบุข้อกล่าวหา ซึ่งโดยปกติ กกต. ต้องระบุ เวลา สถานที่ ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร กับใคร แต่ครั้งนี้ลักษณะเนื้อหาเหมือนกันหมดทุกคน บางฉบับที่หลายคนได้รับ หัวเป็นชื่อหนึ่ง หางเป็นอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับสลับเอกสารมา แต่ทุกคนจะได้รับ 2 ฉบับจาก กกต. กลาง และ กกต. จังหวัด

 

ส่วนที่ กกต. เรียกระดับหัวหน้าพรรค แกนนำพรรค ตลอดจน เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด จนทำให้พรรคภูมิใจไทยถูกมองว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. จริง บุณย์ธิดาระบุว่า หากติดตามข่าวจะพบว่ามีความพยายามลากพรรคภูมิใจไทย เข้าไปเกี่ยวข้องในเกมตรงนี้ตลอดอยู่แล้ว ทางพรรคบอกแล้วว่าเรามั่นใจ ในหัวหน้าและกรรมการบริหารและสส.ที่โดนกล่าวหาว่า พวกเราสามารถแก้ต่าง ได้ทุกกรณี 

 

นอกจากนี้เมื่อวานนี้ (16 มิถุนายน) หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพูดชัดเจนแล้วว่าดูเป็นเกมการเมืองที่ค่อนข้างชัด เพราะโดยปกติเท่าที่เห็นข้อกล่าวหาจะระบุว่า คนไหนทำอะไรผิด หรือการนำไปสู่การยุบพรรคในสมัยก่อน ก็จะเป็นเหตุมาจาก 1-2 บุคคล แต่กรณีนี้พูดถึงทั้งคณะ และเมื่อดูเนื้อหาสาระ เห็นได้ชัดว่า มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าไม่ใช่เกมการเมือง

 

สำหรับภาพลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทยที่อาจถูกมองในแง่ลบไปแล้ว บุณย์ธิดาระบุว่า ที่ผ่านมามีการใช้ชื่อย่อ ใช้ชื่อเรียกขาน และสี ซึ่งเหมือนกับชื่อเล่นที่แต่ละพรรคมี โดยไม่ได้ระบุชื่อพรรค แต่ครั้งนี้เอ่ยชื่อพรรคภูมิใจไทยเลย และคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ทั้ง ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และ กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. พรรคภูมิใจไทย ก็ได้ดำเนินการฟ้องร้องไปแล้ว ส่วนกรณีล่าสุดนี้ ก็จะรอดูวันที่เข้าไปรับทราบ เพราะอย่างไร กกต. ก็ต้องเอาหลักฐานทุกอย่างมาให้ดูอยู่แล้ว

 

“คงตอบเหมือนหัวหน้าว่าเป็นเกมการเมืองเต็มๆ เพราะพุ่งเป้าที่กรรมการบริหารพรรคทุกคนว่ามีใครบ้าง มีเจตนาล้มภูมิใจไทย แต่เราพร้อมสู้ เพราะมั่นใจในข้อเท็จจริง เชื่อว่าไม่สามารถล้มพรรคภูมิใจไทยได้ ไม่มีทาง” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว

 

ข้อกล่าวหาเลื่อนลอย หวังโจมตีให้พรรคเสื่อมเสีย

 

ด้าน กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย กล่าวกรณีคดีฮั้ว สว. ที่ปรากฏรายชื่อกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยถูกเรียกเข้าชี้แจงข้อกล่าวหานั้น โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการประชุมพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้ทราบว่ากรรมการบริหารพรรคทุกคน ตั้งแต่หัวหน้า รองหัวหน้า และทุกตำแหน่งในกรรมการบริหารพรรคเราถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 

 

“ขอยืนยันว่าทางพรรคภูมิใจไทย เราไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการการเลือก สว.เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวหน้า และเลขาธิการพรรค ได้มีการกำชับกับ สส. ทุกคนว่า ห้ามกระทำการใดๆ ที่ฝ่าฝืนข้อกฎหมาย โดยเบื้องต้นยืนยันชัดเจนว่า ตั้งแต่หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค ได้รับการย้ำเตือนจากหัวหน้าพรรคในช่วงที่มีการเลือก สว.” กรวีร์กล่าว

 

ประเด็นที่สอง เรามีการคุยกันว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่เวลาแจ้งข้อกล่าวหากับใคร จะทำให้ใครที่ถูกข้อกล่าวหานั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ เพราะการแจ้งข้อกล่าวหาแบบเดียวกันหมด แทบจะทุกตัวอักษร เปลี่ยนแค่ชื่ออย่างเดียว แม้ตนเองไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่ออ่านข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งมานั้น ไม่ได้มีรายละเอียดเลยว่า กรวีร์ไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร และได้มีการคุยกันอีกว่า จะต้องไปชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างไร เนื่องจากแทบไม่มีรายละเอียดอะไรมาให้เลย มีแต่ข้อกล่าวหาลอยๆ ในการแจ้งข้อกล่าวหาทุกคน

 

กรวีร์ให้ความมั่นใจว่าไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือทำเรื่องใดที่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งหากมีการกล่าวหาว่าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค ว่ามีส่วนรู้เห็น บงการ ล้มล้างการปกครอง ก็ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงมาก ซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีหลักฐานอะไรที่ควรเชื่อได้ แต่วันนี้เรายังไม่เห็น และมั่นใจว่าเราไม่เคยไปทำอะไร

 

ส่วนเรื่องนี้ที่อาจข้องเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น กรวีร์กล่าวว่า จริงๆ พยายามมองในแง่ดีว่าคงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการปรับ ครม. แต่อาจจะวนมาเจอในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึง กกต. ว่า คงมองเป็นอย่างอื่นแทบจะไม่ได้เลย ภายหลังจากดูข้อกล่าวหาแล้ว ก็น่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง ที่อยากโจมตีให้พรรคภูมิใจไทยเสียชื่อเสียง

 

“เรื่องนี้คงต้องมีการคุยกันว่าจะมีช่องไหนบ้าง หาก กกต. แจ้งข้อกล่าวหาเช่นนี้ และไม่มีหลักฐานพยานที่ชัดเจน ทำให้พรรคเสียหาย จึงคิดว่า กรรมการบริหารพรรค และพวกเราเอง คงจะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป” กรวีร์กล่าว

 

กรวีร์ยังทิ้งท้ายด้วยการเน้นย้ำว่า ไม่กังวลกับเรื่องนี้ สบาย และห่วงเรื่องน้ำท่วมมากกว่าอีก

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising