×

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าภูมิใจไทยถอนตัวร่วมรัฐบาล

18.06.2025
  • LOADING...
bhumjaithai-political-move

‘ภูมิใจไทย’ ประกาศยอมหักไม่ยอมงอ หลังเพื่อไทยทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ขอคืนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ด้วยการใช้ถ้อยคำตรงไปตรงมา ซึ่งอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคแทบจะสวนกลับทันทีว่า ‘ให้ไม่ได้’

 

อนุทินย้ำว่า นี่ไม่ใช่การต่อรอง แต่เป็น ‘ข้อตกลง’ ที่เคยตั้งไว้ร่วมกันตั้งแต่วันแรก ที่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน และหากไม่สามารถรักษาข้อตกลงได้ ก็ต้อง ‘ต่างคนต่างไป’

 

แม้ทางฝั่งเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาลจะยังพยายามประคองความสัมพันธ์ โดยอ้างว่าไม่มีการขีดเส้นตาย 48 ชั่วโมงอย่างจริงจัง แต่การใช้ไพ่ใบสุดท้าย ก็ชัดเจนพอว่าความสัมพันธ์ระหว่างพรรคหลักสองพรรคนี้ได้เดินมาถึงจุดวิกฤตแล้ว

 

และนี่คือสัญญาณที่ส่งแรงอย่างจริงจัง ถึงแรงกระเพื่อมทางการเมืองที่จะตามมา หากพรรคภูมิใจไทยตัดสินใจเดินออกจากสมการอำนาจ ไม่เป็นแล้วพรรครัฐบาล ขอทำหน้าที่ ‘ฝ่ายค้าน’ อย่างสุดใจ

 

จุดเปลี่ยนในสมการ ทวงคืน ‘มหาดไทย’

 

จุดเริ่มของทุกอย่างมาจากความต้องการทวงเก้าอี้กระทรวง ‘มหาดไทย’ คืนมาให้พรรคเพื่อไทยดูแล 

 

ในโลกของการเมืองไทย กระทรวงนี้คือกลไกหลัก เป็นทั้งเนื้อแท้และเครื่องมือ ผลักดันนโยบายระดับรากหญ้าถึงส่วนกลาง เป็นทั้งประตูและกุญแจของหลายกลไกในภาคราชการ

 

ในการต่อรองจัดตั้งรัฐบาลครั้งล่าสุด มีรายงานชัดเจนจากพรรคแกนนำที่ตั้งเงื่อนไขว่า ‘ห้ามนั่งซ้ำกระทรวงเดิม’ ที่พรรคตัวเองเคยดูแลในยุคร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่น คมนาคม และสาธารณสุข เพราะไม่ต้องการให้ภาพ ‘รากงอก’ สืบทอดอำนาจต่อ และถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมืองในเวลาต่อมา 

 

ในเวลานั้น ‘มหาดไทย’ จึงกลายเป็นกระทรวงที่ถูกยกให้ภูมิใจไทย เพราะสมการ การเมืองเวลานั้นสิ่งสำคัญคือการตั้งรัฐบาล ผสมกับเงื่อนไขที่ไม่นั่งกระทรวงเดิม เพื่อไทยได้คมนาคม ภูมิใจไทยได้มหาดไทย ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้คนติดตามการเมือง เพราะปกติพรรคแกนนำย่อมเลือกถือกลไกมหาดไทยไว้ข้างตัว แต่ก็มีคำอธิบายในเวลานั้นว่า ยุคสมัยใหม่มหาดไทยไม่ใช่กลไกที่จะตอบสนองได้แบบเดิมทั้งหมดแล้ว 

 

แต่ทว่าในเวลาต่อมาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า กลไกมหาดไทยยังจำเป็นต่อการเมืองไทยแค่ไหน ตามเหตุผลที่ยกมาข้างต้น 

 

เกมยอมหักไม่ยอมงอ: ยื่นเงื่อนไข-โชว์เสียง

 

ภาพแกนนำภูมิใจไทย นัดดินเนอร์กับกลุ่ม สส.กลุ่มเล็กทั้งจากก๊วนสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำพลังประชารัฐ จังหวัดเพชรบูรณ์ และ 2 สส.ไทยสร้างไทย รวม 8 เสียง เมื่อบวกกับตัวเลข 69 เสียงของภูมิใจไทย ทำให้มีเสียงสส.รวมเป็น 77 เสียง นี่คือการโชว์ภาพ โชว์ตัวเลขขั้นต่ำ ว่ามีของจริงในมือเท่าใด เสมือนเป็นส่งสารว่า ‘เราพร้อม’ และเรามีศักยภาพเท่าใดในทางการเมือง 

 

และถ้า ‘ภูมิใจไทย’ เดินออกจากรัฐบาลจริงพร้อมด้วยกลุ่มก๊วน เอาตัวเลขเสียงในสภาจะเหลือเพียง 247 เสียงจาก 324 ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสภา และแม้ว่าวันนี้จะมีตัวเลขจากพรรคกล้าธรรม รวมถึงสส.ย้ายขั้วแต่ค่ายเดิม ก็อาจจะเกิดรัฐบาลแบบเสียงปริ่มน้ำได้ ซึ่งเวลานี้สส.ทั้งสภา มี 495 ที่นั่ง และหากตัดสินใจที่จะพยายามดึงพลังประชารัฐมาช่วย ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อย แต่หากทำได้ สภาล่างเดินไปได้ด้วยเสียงข้างมากแบบปริ่มน้ำ รัฐบาลใหม่ก็ยังจะติดล็อกใหญ่คือ สว. ซึ่งเป็นเนื้อแท้สีน้ำเงินเดียวกันที่รออยู่ที่ท่าน้ำแล้ว ยังไม่นับรวมอำนาจโหวตเลือกองค์กรอิสระ ที่ในอนาคตเห็นภาพชัดว่าจะกลายเป็นกลไกสำคัญทางการเมืองของใคร

 

เดิมพันที่มากกว่าแค่จำนวนเสียง

 

อย่างไรก็ตามเดิมพันหนนี้ อาจไม่ใช่แค่ ‘จำนวนเสียง’ ที่เป็นประเด็น หากแต่เป็น ‘อำนาจขับเคลื่อน’ ที่ต้องอาศัยกระทรวงอย่างมหาดไทยในนโยบายหลายด้าน โดยเฉพาะประเด็นอ่อนไหวอย่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ที่มีคาสิโนถูกกฎหมาย เป็นองค์กรประกอบหนึ่ง และดูจะเป็นนโยบายเรือธงที่พรรคเพื่อไทย ประกาศจะดำเนินการให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติในไม่ช้า

 

ตามโครงสร้างอำนาจ กระทรวงมหาดไทยคือหน่วยงานหลักในการถือกฎหมายพนัน และการเคลื่อนตัวใดๆ ต้องมีความร่วมมือจากฝ่ายบริหารของกระทรวงนี้

 

ดังนั้น คำถามจึงย้อนกลับมาว่า ‘จะเอามหาดไทยคืนไปเพื่ออะไร’ หากไม่ใช่เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่อาจจะถูกต่อต้านจากพรรคอย่างภูมิใจไทยในภายหลัง

 

เพื่อไทย ‘ทวงคืน’ มหาดไทยไปทำไม

 

  1. มหาดไทย คุมเครือข่ายท้องถิ่น คุมเกมเลือกตั้ง

กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลผู้ว่าราชการจังหวัด ลงไปจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงโดยตรงกับประชาชนในทุกพื้นที่ การคุมกระทรวงนี้ จึงหมายถึงการสร้าง ‘สนามการเมือง’ ให้เป็นฐานเสียงสนับสนุนพรรคของตนเองอย่างเป็นระบบ

 

พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากยังคงเสียเปรียบในเกมพื้นที่แบบนี้ โอกาส ‘รักษาฐาน’ จะยากมาก

 

  1. กลไกในการขับเคลื่อนนโยบายลงไปในระดับพื้นที่

พรรคเพื่อไทยมีจุดแข็งคือ นโยบายเศรษฐกิจและสวัสดิการ ซึ่งต้องอาศัยกลไกระดับพื้นที่เข้ามาช่วยผลักดัน การไม่มีกระทรวงมหาดไทยในมือ เท่ากับ ‘ส่งของแต่ไม่มีคนรับ’ ทำให้นโยบายดีแค่ไหนก็ไม่ถึงมือประชาชน 

 

  1. กุญแจสำคัญของการแก้กฎหมาย ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’

หนึ่งในวาระที่พูดกันมาก คือ ‘Entertainment Complex’ ที่มีคาสิโนถูกกฎหมาย ภายใต้กรอบการพัฒนาท่องเที่ยวและสร้างรายได้ของรัฐ กฎหมายพนันฉบับปัจจุบันอยู่ในกำกับของกระทรวงมหาดไทย การจะแก้ไข หรือปรับใช้เพื่อเปิดทางให้กับโครงการนี้ได้ ต้องมีมหาดไทยอยู่ในมือ

 

ถ้าภูมิใจไทยยังคุมอยู่ และแสดงท่าทีต่อต้านชัดเจน รัฐบาลจะติดหล่มเองในนโยบายที่ขับเคลื่อนต่อไม่ได้

 

  1. ลดอำนาจต่อรองของ ‘ภูมิใจไทย’

เมื่อภูมิใจไทยคุมมหาดไทย กลายเป็นพรรคที่ยืนหนึ่ง ในอำนาจเชิงปฏิบัติ แม้จะมี สส. น้อยกว่าเพื่อไทยก็ตาม สิ่งนี้สร้างความไม่สบายใจและไม่สมดุลทางอำนาจในรัฐบาล

 

การทวงคืนมหาดไทยจึงเป็น การดึงอำนาจกลับเข้าสู่พรรคแกนนำ เพื่อลดอิทธิพลของพรรคร่วม และตัดทอนแรงต่อรองของภูมิใจไทยในอนาคต

 

  1. เตรียมการ ‘รีแบรนด์’ และเปลี่ยนโครงสร้างราชการล่วงหน้า

เดือนกันยายนคือฤดูเกษียณของข้าราชการระดับสูงทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกระทรวงมหาดไทย การได้มาควบคุมในช่วงนี้เท่ากับสามารถวาง ‘โครงสร้างใหม่’ ให้พร้อมรับการเลือกตั้งหรือขับเคลื่อนนโยบายใหม่ในปีหน้าได้ทันที

 

ถ้าช้ากว่านี้ การเปลี่ยนแปลงจะต้องรออีกปี และอาจไม่ทันเวลากับรอบวาระของรัฐบาล

 

‘ฝ่ายค้าน’ ที่ไม่อดอยากปากแห้ง

 

ประโยคในตำนานที่บอกว่า “ใครๆ ก็ไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน เพราะอดอยากปากแห้ง” อาจต้องปรับใหม่ในบริบทของวันนี้ เพราะภูมิใจไทยคือพรรคที่มีทุนทางการเมืองครบมือ มีฐานมวลชน มีหัวเมือง บ้านใหญ่ และมีอาวุธหนัก ในเกมการเมืองยาวนานพอจะยืนได้เอง

 

การเลือกเป็นฝ่ายค้านอาจเป็นการวางหมากเพื่อเกมยาว และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีพรรค และรอเวลาเหมาะสมสำหรับการกลับมาแบบ ‘ตัวจริงเสียงจริง’ ไม่ใช่แค่ตัวประกอบ

 

สัญญาณยุบสภาและความเสี่ยงของพรรคแกนนำ

 

ถ้าภูมิใจไทยถอนตัวจริง รัฐบาลจะเจอกับฝ่ายค้านที่ค้านแบบสุดหัวใจ ทุกนโยบายจะต้องประคองกันแบบวันต่อวัน ข้าราชการระดับสูงก็อาจเริ่ม ‘เข้าเกียร์ว่าง’ และหากข่าวลือ ‘การยุบสภา’ เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ การเตรียมพร้อมสู่สนามเลือกตั้งใหม่จะเริ่มทันที

 

ใครที่เสนอนโยบายไม่โดนใจ คนไม่อิน คนไม่เชื่อ จะเจ็บก่อน เพราะกระแสประชาชนในยุคนี้ ‘เร็วและแรง’ กว่าที่เคยมีมา

 

ภูมิใจไทยอาจเลือกเดินออกจากรัฐบาลหากการปรับ ครม. ไม่เป็นไปตามที่ตกลง แต่พรรคแกนนำรัฐบาลก็ใช่ว่าจะเดินต่อได้อย่างมั่นคง หากไม่สามารถจัดสมดุลของ ผลประโยชน์-นโยบาย ทั้งกับประชาชนและพรรคร่วมที่เหลือ ได้ครบทุกมิติ

 

นี่คือเกมวัดใจรอบใหญ่ของการเมืองไทย วัดใจว่าใครกันแน่จะเป็นคนยืนระยะยาวในสมรภูมินี้ และคำตอบอาจรออยู่อีกไม่นาน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising