×

ศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมือง ชั้นอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุกคนละ 9 เดือน 3 สส. ภูมิใจไทย คดีเสียบบัตรแทนกัน

โดย THE STANDARD TEAM
11.06.2024
  • LOADING...
สส. ภูมิใจไทย

วันนี้ (11 มิถุนายน) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ชั้นอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ อม.อธ. 6/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 3/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้เป็นโจทก์ กับ ฉลอง เทอดวีระพงศ์ อดีต สส. เขต 2 พัทลุง พรรคภูมิใจไทย, ภูมิศิษฏ์ คงมี อดีต สส. เขต 1 พัทลุง พรรคภูมิใจไทย และ นาที รัชกิจประการ อดีต สส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย จำเลย

 

คดีนี้สืบเนื่องจากอัยการสูงสุดเป็นโจทก์สั่งฟ้องจำเลยทั้ง 3 ตามความผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 กรณีเสียบบัตร สส. แทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

 

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 จำคุกคนละ 1 ปี แต่ทางไต่สวนของจำเลยทั้ง 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 9 เดือน และไม่มีเหตุรอการลงโทษ 

 

พร้อมให้ ฉลอง เทอดวีระพงศ์ และ ภูมิศิษฏ์ คงมี พ้นจากตำแหน่ง สส. นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของจำเลยทั้ง 3 ตลอดไป โดยไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกเป็น สส., สว., สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง

 

จำเลยทั้ง 3 อุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาขอให้ยกฟ้องระหว่างการพิจารณาขององค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ จำเลยทั้ง 3 ยื่นคำร้องขอสละประเด็นข้อต่อสู้ตามอุทธรณ์ทุกข้อ และขอให้การรับสารภาพในชั้นอุทธรณ์ กับขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกในข้อที่ขอให้ลงโทษสถานเบา

 

องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เสียงข้างมากเห็นว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวางโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 1 ปีก่อนลดโทษให้นั้น เป็นการลงโทษในอัตราขั้นต่ำที่สุดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และยังลดโทษให้อีก 1 ใน 4 เป็นคุณแก่จำเลยทั้ง 3 มากแล้ว ไม่มีเหตุที่องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข

 

ส่วนที่ขอให้รอการลงโทษนั้น องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทั้ง 3 กลับละเลยหน้าที่ในฐานะผู้แทนปวงชนไปปฏิบัติงานอย่างอื่นโดยไม่ยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย จนทำให้เกิดความด่างพร้อยต่อระบบรัฐสภา ทำให้เห็นเจตนาที่ไม่ชอบของจำเลยทั้ง 3 มากยิ่งขึ้น

 

การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้ง 3 ก็เพื่อให้จำเลยทั้ง 3 หลาบจำ เป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างกระทำความผิดเช่นนี้อีก

 

แม้ต่อมาจำเลยทั้ง 3 รู้สำนึกในการกระทำความผิดโดยให้การรับสารภาพและไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ทั้งได้กระทำคุณความดีต่อสังคมตามที่จำเลยทั้ง 3 อ้าง ก็ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้ง 3 อุทธรณ์ของจำเลยทั้ง 3 ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 9 เดือน และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของจำเลยทั้ง 3 ตลอดไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising