วันนี้ (10 พฤศจิกายน) ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า บรรยากาศ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญช้า และโอกาสผ่านวาระ 3 น้อยมากว่า อยากให้ดูบันทึกรายงานการประชุม คนที่ถกเถียงและพูดเยอะสุดคือ พรรคอะไร เรื่องจบตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนแล้ว สัปดาห์แรกผ่านไปด้วยดี สัปดาห์ที่ 2 มีความพยายามบางอย่าง หากดูบันทึกการประชุมก็จะทราบว่าใครพยายามเตะถ่วง
“พรรคภูมิใจไทยไม่มีใครขวางและถ่วง มีแต่ผลักดัน และเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ส่วนที่อยากเปิดเดือนพฤศจิกายน กมธ.ทำไม่ทัน ต้องเปิด 8-11 ธันวาคม เพื่อให้เสร็จภายในสิ้นปี ผมได้เสนอไทม์ไลน์กับทุกคนหมดแล้ว”
ขั้นตอนการเปิดสมัยวิสามัญ ประธานรัฐสภาต้องแจ้งนายกรัฐมนตรีเพื่อเปิดประชุม แต่ก่อนถึงขั้นตอนนั้น อยู่ที่ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเสร็จหรือไม่ หากไม่เสร็จก่อนการประชุมสมัยสามัญ 12 ธันวาคม ก็ไม่มีประโยชน์ ควรเสร็จภายในสิ้นธันวาคม หรือต้นธันวาคม เพื่อเสนอให้ประธานรัฐสภาแจ้งนายกฯ
ภราดร ระบุ กรอบการทำงานของ กมธ.น่าจะเสร็จทัน หากไม่มีใครเตะถ่วง หรือพูดเรื่องเก่าๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก สำหรับการประชุม 12 พฤศจิกายน เพื่อลงมติเกี่ยวกับองค์กรในการจัดทำรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้
ภราดร ยังกล่าวถึงปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางว่า ช่วงบ่าย นายกฯ จะเรียกหารือร่วมกรมชลประทานเพื่อแลกแนวทางระบายน้ำ ยอมรับต้องติดตามใกล้ชิด ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่เต็ม ต้องระบายเพิ่ม ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มระดับ น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี เสนอให้ใช้ทุ่งทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกในระบบชลประทานเพื่อหน่วงน้ำ ไม่ใช่ปล่อยลงแม่น้ำทั้งหมด แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ
แนวทางผันน้ำทางทิศตะวันตกสู่แม่น้ำท่าจีน ต้องระบายทั้งตะวันตกและตะวันออก บริหารน้ำแบบก้างปลาเพื่อเก็บไว้ในทุ่ง โดยนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ประสบอุทกภัยเร็วๆ นี้ แต่วันและสถานที่ยังไม่ระบุ


