ท่ามกลางกาลเวลาที่หมุนเวียนผ่านไปทุกนาที พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งสำหรับธุรกิจแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการผู้บริโภค
หนึ่งในเทรนด์ที่กำลังเป็นที่สนใจในเวลานี้คือ การที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องใส่ใจ ‘ความหลากหลายทางเพศ’ มากขึ้นด้วย
ความหลากหลายทางเพศกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงในวงกว้างมากขึ้นอยู่ในเวลานี้ เพราะต้องยอมรับว่าสังคมโลกในปัจจุบันเปิดกว้างและให้การยอมรับความแตกต่างและความหลากหลายของมนุษย์มากขึ้นกว่าในอดีต ทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา อายุ โดยฉพาะอย่างยิ่งความหลากหลายทางเพศและรสนิยมทางเพศ
เรื่องนี้ยืนยันได้จากผลสำรวจของ PwC ร่วมกับ Out Leadership ที่ระบุว่า การเปิดโอกาสและสนับสนุนความหลากหลาย รวมถึงการแสดงถึงความจริงใจและเป็นมิตรกับพนักงานกลุ่ม LGBTQ+ จะส่งผลดีต่อธุรกิจใน 4 ด้านสำคัญ ดังนี้
- เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในตลาด LGBTQ+ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่กำลังขยายตัว
- กลุ่ม LGBTQ+ รวมถึงเพื่อนและครอบครัวของพวกเขา จะเลือกใช้สินค้าและสนับสนุนแบรนด์ของธุรกิจที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+
- ดึงดูดพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูง โดยพบว่า มากกว่า 80% ของพนักงานทั้งกลุ่ม LGBTQ+ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้ความเห็นว่า นโยบายขององค์กรที่สนับสนุนความหลากหลาย เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกสถานที่ทำงาน
- เพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร โดยพบว่า องค์กรที่ส่งเสริมความเท่าเทียมกันและเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและสูงกว่ามาตรฐาน
สำหรับในประเทศไทย หากถามว่าแบรนด์ไหนที่ใส่ใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมากที่สุด เราคงต้องขอยกให้กับ ‘เบทาโกร’
เบทาโกรเป็นสัญลักษณ์ของอาหารคุณภาพดีที่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี ดังนั้นจึงเป็นแบรนด์ที่เข้าใจคนไทยและความหลากหลายของสังคมไทยในทุกมิติ ตั้งแต่รสชาติอาหาร แฟชั่น เพลง เชื้อชาติ เพศ อายุ ไปจนถึงความเท่าเทียมกันทางสังคม
เพราะประเทศไทยคือดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสันของความหลากหลาย เรามีผู้คนที่มาจากต่างเชื้อชาติ เปิดกว้างเรื่องศาสนา ไม่ปิดกั้นเพศทางเลือก เราแตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
แต่ไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนเหมือนกัน คือทุกชีวิตต่างต้องการอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย นี่จึงเป็นที่มาของแนวคิด ของแคมเปญใหม่ล่าสุดของเบทาโกร ‘Connect all the differences with Betagro quality’ ชีวิตแตกต่าง แต่เรื่องอาหารวางใจมาตรฐานเบทาโกร
ความน่าสนใจของแคมเปญนี้อยู่ที่ TVC ซึ่งสื่อสารผ่านกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คุณอาร์ม คุณพอร์ช คู่รัก LGBTQ+, คุณหนึ่ง นาตาเลีย ผู้เป็น Drag Queen คนแรกของเมืองไทย จากรายการ Drag Race Thailand
ยังมี ป๋าตึก ที่แม้อายุจะเกือบ 70 ปีแล้ว แต่ยังชื่นชอบที่จะแต่งตัวให้ทันสมัยและโหยหาความตื่นเต้นใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และ คุณเมย์ ซึ่งไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากการตัดผมแบบสกินเฮดและมีรอยสัก
TVC ดังกล่าวได้เข้ามาตอกย้ำว่า ไม่ว่าชีวิตจะแตกต่างอย่างไร แต่เรื่องอาหารมั่นใจได้ในคุณภาพจากเบทาโกร
ที่มากไปกว่านั้นคือ เป้าหมายของเบทาโกรที่ต้องการเป็นมากกว่าแค่อาหารที่ดี ให้ได้มากกว่าแค่ความอิ่มอร่อย จึงมุ่งมั่นรักษาความเชื่อใจในคุณภาพอาหารที่ได้มาตรฐาน โดยใส่ใจในทุกกระบวนการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ ไร้กังวล ในเรื่องของคุณภาพ ความสด สะอาด ปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะและสารตกค้าง ด้วยระบบ Betagro Quality Management (BQM) มาตรฐานด้านการจัดการที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร อันประกอบไปด้วย
- Food Safety ตรวจสอบอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากสารตกค้างและสิ่งแปลกปลอม
- Food Quality วิจัยและพัฒนาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
- Animal Welfare ส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ ยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงอย่างมีคุณธรรม
- Service Excellence นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
- Corporate Social Responsibility สร้างความยั่งยืนให้สิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม
ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ ‘เบทาโกร’ พร้อมที่จะเป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ให้สมกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า ‘ใส่ใจเพื่อชีวิตที่ดี’ (Smart Food, Good Life)
#เข้าใจทุกความต่าง #ต่างอย่างเป็นตัวคุณ #happydiversity #เบทาโกร
อ้างอิง: