×

7 THINGS WE LOVE ABOUT BEST MEN’S FALL/WINTER 2025 SHOWS โชว์ยอดเยี่ยมจากแฟชั่นวีคคอลเล็กชันผู้ชาย

02.02.2025
  • LOADING...
best-mens-fall-winter-2025

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยกับแฟชั่นวีคคอลเล็กชันสุภาพบุรุษประจำฤดูกาล Fall/Winter 2025 ฤดูกาลนี้ดูเงียบเหงาและจบเร็วกว่าปกติเนื่องจากมีหลายแบรนด์เลือกที่จะโยกคอลเล็กชันผู้ชายไปรวมไว้กับคอลเล็กชันผู้หญิงแทน ไม่ว่าจะด้วยพิษเศรษฐกิจหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่โชว์ตามตารางกลับทำได้ดี ส่งให้แฟชั่นวีครอบนี้ให้เป็นที่น่าจดจำได้แม้จะมีจำนวนน้อยโชว์ก็ตาม

 

หากพูดถึงภาพรวม ดีไซเนอร์หลายคนเลือกชูจุดแข็งของแบรนด์โดยย้อนกลับไปที่ DNA และนำมาต่อยอดในการสร้างสรรค์คอลเล็กชันมากกว่าจะวิ่งตามเทรนด์ ไม่แปลกหากคอลเล็กชันจากแบรนด์ที่เราเลือกรอบนี้จะมาพร้อมเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองรวมถึงวิธีการนำเสนออันโดดเด่น

 

และนี่คือ 7 โชว์ที่ THE STANDARD POP เลือกให้เป็นโชว์ที่โดดเด่นที่สุดประจำฤดูกาล Fall/Winter 2025

 

SAINT LAURENT

 

ลองนึกภาพตาม ใส่สูทอย่างไรให้ดูยั่วยวน? Saint Laurent โดย Anthony Vaccarello มีคำตอบ ชุดสูทเปรียบได้กับยูนิฟอร์มของ Saint Laurent เพียงแต่ช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่าน Anthony ดูชื่นชอบสไตล์แบบ Power Dressing ชุดสูทไหล่ตั้งแบบยุค 80 เป็นพิเศษ คอลเล็กชันนี้เสื้อผ้าคัตติ้งคมกริบยังคงเป็นพระเอกเช่นเดิมแม้โครงชุดจะดูแข็งทื่อจากที่เสริมบ่าแต่เนื้อผ้ากลับไหลลื่นไปกับสรีระของผู้สวมใส่ได้อย่างสวยงาม แต่สิ่งที่ช่วยยกระดับโชว์นี้ให้ดูซุกซนและแอบติดเรตเบาๆ คือการแมตช์ชุดสูทที่เรากล่าวถึงข้างต้นเข้ากับรองเท้าบู๊ตหนังยาวถึงต้นขา การไฮบริดระหว่างสองโลกที่ต่างกันสุดขั้วสร้างมู้ดชวนจินตนาการเฟติชแบบเบาๆ ให้กับคอลเล็กชันนี้ จะว่าไปตัวผู้ก่อตั้งอย่าง Yves Saint Laurent ก็เป็นนักรักซุกซนไม่แพ้ใครเหมือนกันในยุคนั้น Anthony เลือกหยิบมุมแซ่บของดีไซเนอร์คนดังมาต่อยอด ผลที่ได้จึงดูสดใหม่และ Kinky พอตัวเลย

 

Saint Laurent

 

LOUIS VUITTON

 

หลังจากดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์มาเกือบสองปี ผลงานของ Pharrell Williams ที่ Louis Vuitton ยังแรงดีไม่มีแผ่ว จนเราเกิดคำถามว่าเขาจะรักษาโมเมนตัมให้คงอยู่ได้อย่างไร คำตอบคือการดึงตัวเพื่อนสนิทอย่าง Nigo มาร่วมออกแบบหลังจากที่ทั้งสองทำงานด้วยกันมาแล้วหลายโปรเจกต์ รวมถึงแว่นตารุ่น Millionaire ให้กับ Louis Vuitton สมัย Marc Jacobs ทั้งคู่โด่งดังจากสตรีทแวร์ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง A Bathing Ape และ Billionaire Boys Club ซึ่ง Louis Vuitton คอลเล็กชันนี้เกิดจากการไฮบริดระหว่างความชื่นชอบในสตรีทแวร์และงานเทเลอร์สุดเนี้ยบผสมผสานกันออกมาได้อย่างกลมกล่อม ตัวขโมยซีนเราขอยกให้กับเฉดสีชมพูซากุระสุดป๊อปที่ทั้งสองเลือกใช้เพื่อเบรกความเท่ขรึมให้มีกลิ่นอายแบบอนิเมะ โดยเฉพาะชุดสูทลาย Damoflage อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์จริงๆ อยู่ที่แอ็กเซสซอรี กระเป๋าคอลเล็กชันนี้หลากหลายเหลือเกิน ตั้งแต่กระเป๋าถือสีพาสเทล, Trunk ใบใหญ่, กระเป๋าทรงล็อบสเตอร์ ไปจนถึงใบที่ทำขึ้นจากทองคำ นี่ยังไม่รวมรองเท้ารุ่น ButterSoft ที่ปล่อยออกมาเรียกน้ำย่อยก่อนโชว์ น่าจะขายดีแบบ Sold Out เชื่อว่าทีมผู้บริหาร LVMH นั่งยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบโชว์แน่นอน

 

Louis Vuitton

 

WILLY CHAVARRIA

 

ดีไซเนอร์หน้าใหม่ประจำปารีสแฟชั่นวีคที่โดดเด่นที่สุด เรายกให้เป็นโชว์ของ Willy Chavarria ที่ปกติเป็นหนึ่งในโชว์สำคัญประจำนิวยอร์กแฟชั่นวีค ความตั้งใจของ Willy คือการนำเสนอแฟชั่นและการเมืองในฐานะคนชายขอบหรือ Outsiders กลุ่มคนที่ถูกมองข้ามแต่มักเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชน เพื่อเน้นย้ำในสิ่งที่เขาเชื่อ Willy นำเสนอแฟชั่นโชว์ผ่านตัวละครหลากหลายมิติ สะท้อนความหลากหลายของมนุษยชาติ รวมถึงเสื้อผ้าที่สะท้อนวัฒนธรรมของตัวเขาอย่างลาตินอเมริกาผ่านงานเทเลอร์โอเวอร์ไซส์ สตรีทแวร์สไตล์ฮิปฮอป แนวดนตรีที่เขาฟังตั้งแต่ยังเด็ก ไปจนถึงยูนิฟอร์มชุดทำงานที่เป็นส่วนสำคัญจากการใช้ชีวิตของเหล่าผู้อพยพ เสื้อผ้าของ Willy มีแมสเสจสำคัญหนึ่งเดียวคือความเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากจากแบรนด์ในยุคนี้ บางครั้งความสวยงามควรมีคุณค่ามากกว่าแค่ภายนอก มันควรสร้างคุณค่าจากภายในด้วยเช่นกัน และ Willy ได้สร้างคอลเล็กชันที่สื่อสารออกมาได้อย่างสวยงาม

 

Willy Chavarria

 

HERMÈS

 

ข้อดีของงานดีไซน์จาก Véronique Nichanian คือเธอเข้าใจดีว่าฐานลูกค้าของ Hermès ต้องการสิ่งใด การที่เธอสามารถดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์มาหลายปีพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเชื่อในศักยภาพและซื่อสัตย์กับงานดีไซน์คลาสสิก คัตติ้งเนี้ยบบนแมตทีเรียลที่ดีที่สุด สิ่งที่เรากล่าวมายังคงเป็นจุดแข็งในคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ด้วยเช่นกัน ดีไซน์เรียบโก้เน้นซิลูเอตพอดีตัวแต่ไม่รู้สึกอึดอัดด้วยเนื้อผ้าชั้นยอดที่ไหลลื่นแม้จะเป็นผ้าหนาสำหรับฤดูหนาวก็ตาม Véronique เลือกใช้โทนสีน้ำตาลแทบจะทุกเฉดที่เราพอนึกออกในการสร้างคอลเล็กชันรับลมหนาวให้ดูอบอุ่นเข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่นั้น เธอยังแอบหยอดลูกเล่นโดยการใช้สีสดอย่างแดงติดส้มและลายเรขาคณิตเข้ามาสร้างความซาบซ่านให้คอลเล็กชันหล่อเนี้ยบมีลูกเล่นขึ้นมาบ้าง นี่ถือเป็นคอลเล็กชันที่คิดมาแล้วอย่างดี เน้นจุดแข็งของตัวเอง และเข้าใจกลุ่มลูกค้าอย่างลึกซึ้ง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Hermès ไม่จำเป็นต้องตามเทรนด์แต่สร้างวิธีการแต่งตัวในแบบของตัวเองขึ้นมาเอง ทุกชิ้นกับราคาที่สูงทะลุเพดานคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

 

Hermes

 

PRADA

 

เหตุผลที่ Prada ประสบความสำเร็จต้องยกเครดิตให้กับ Miuccia Prada และ Raf Simons ครีเอทีฟหัวกะทิทั้งสองที่สามารถนำความเก๋ามาบรรจบกันได้อย่างน่าประหลาดใจ สิ่งที่เราเห็นในโชว์จาก Prada มักเป็นสิ่งที่เรายังไม่พร้อมเพราะทั้งคู่ไม่เคยตามเทรนด์แต่มักสร้างเทรนด์ในแบบของตัวเองขึ้นมา ซึ่งแมสเสจในบางครั้งยากต่อการย่อยและต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าใจ เช่นเดียวกับคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ทั้งสองนำเสนอเสื้อผ้าผ่านการใช้ ‘สัญชาตญาณ’ มากกว่าความถูกต้อง เสื้อโค้ตแมตช์กับเชิ้ตลายตารางจบด้วยรองเท้าบู๊ตสไตล์คาวบอย ความมั่วแบบตั้งใจเพื่อทลายกรอบการแต่งตัวแบบถูกตั้งโปรแกรมว่าแบบไหนผิดหรือแบบไหนถูก ความ Ugly Pretty แก่นแท้ของ Prada ที่ทั้งสองตั้งใจให้ชวนเกิดคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น หากแยกชิ้นออกจากกันทั้งหมดเราจะเห็นว่าไอเท็มทุกชิ้นถูกคิด จัดการ และตัดเย็บออกมาอย่างดี เสื้อผ้าของ Prada คอลเล็กชันนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนแต่งตัวในแบบของตัวเองมากกว่าก๊อปลุครันเวย์ คำแนะนำในการดูโชว์ของ Prada คือการเปิดรับแบบไร้อคติ ที่สำคัญมันโอเคหากคุณจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเห็น

 

Prada

 

DOLCE & GABBANA

 

Dolce & Gabbana จัดแฟชั่นโชว์ครั้งนี้โดยใช้ชื่อว่า ‘Paparazzi’ พร้อมเหล่านายแบบถือกล้องใส่สูททักซิโด้ ก่อนจะเผยคีย์ลุคของคอลเล็กชันโดยแบ่งออกเป็นสองส่วน เริ่มด้วยเสื้อผ้าสไตล์ลำลองเน้นชิ้นคลาสสิกจับคู่ชิ้นไฮไลต์อย่างโอเวอร์โค้ตหลายแบบทั้งโค้ตยาวเน้นงานเทเลอร์เนี้ยบๆ และแบบขนเทียมที่ทอขึ้นมาให้ราวกับเฟอร์แท้ สิ่งที่น่าชื่นชมคือไดนามิกของเสื้อผ้าที่หลากหลาย ผสมผสานระหว่างงานเทเลอร์และชิ้นเบสิกอย่างคาร์ดิแกน สเวตเตอร์ หรือแม้แต่เสื้อยืด ทุกลุคล้วนสวมใส่ได้จริงและถูกคิดมาแล้วว่าเราอาจได้เห็นเซเลบริตี้สักคนสวมเสื้อโค้ตเหล่านี้เดินเที่ยวตามรีสอร์ตเมืองแอสเปน ก่อนจะพาเราเข้าสู่เซ็ตชุดทักซิโด้สำหรับสวมใส่ออกงานเดินพรมแดงสำคัญๆ สิ่งที่ Dolce & Gabbana นำเสนอคือเสื้อผ้ารูปหล่อที่ผู้ชายทุกคนอยากสวมใส่ ทุกชิ้นมีเอเลเมนต์ ส่งให้เราดูเป็นคนดังได้หากราคาเอื้อมถึง ไม่แปลกเลยทำไมถึงเรียกว่า Paparazzi ทุกชิ้นทำมาเพื่อให้ถูกมองนี่เอง

 

dolce & Gabbana

 

DIOR MEN

 

ปิดจบกับคอลเล็กชันสุดท้ายของ Kim Jones ที่ Dior Men ซึ่ง Kim Jones เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญผู้หลงใหลในสตรีทคัลเจอร์และมักนำมาใช้ต่อยอด รวมถึงการคอลลาบอเรชันกับแบรนด์สตรีทอื่นๆ จนกลายเป็นไฮไลต์ประจำโชว์ของ Dior Men ในช่วงหลายปีที่ผ่าน แต่ในฤดูกาลนี้ Kim กลับเลือกที่จะลดทอนและกลับสู่สามัญด้วยการค้นคว้างานอาร์ไคฟ์ของ Monsieur Dior เพื่อนำมาต่อยอดผ่านการใช้เทคนิคชั้นสูง ยกระดับคอลเล็กชันนี้แทนการสร้างป๊อปคัลเจอร์โมเมนต์แบบแต่ก่อน เขานำซิลูเอต H Line จากโค้ตของคอลเล็กชันผู้หญิงในปี 1954-1955 มาปรับให้อยู่ในฟอร์มของเสื้อผ้าผู้ชาย รวมถึงนำเทคนิคการปักแบบโอต์กูตูร์มาเพิ่มเติม โชว์ศักยภาพของ Menswear ว่าสามารถไปไกลได้กว่าแค่สตรีทแวร์ มองผิวเผินคอลเล็กชันนี้อาจดูเรียบง่ายสไตล์ Quiet Luxury แต่มันคือหมัดเด็ดในการโชว์สกิลการตัดเย็บระดับ Savoir Faire เทคนิคการตัดเทเลอร์ชั้นสูงเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของ Dior Men สู่เสื้อผ้าดีไซน์เหนือกาลเวลาไม่ใช่แค่ตามเทรนด์

 

Dior Men

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories