จากการประเมินและจัดอันดับประเทศและดินแดน 98 แห่งจากทุกทวีปทั่วโลก โดยกลุ่ม Think Tank ในออสเตรเลียอย่าง Lowy Institute ที่พิจารณาถึง 6 ตัวชี้วัดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนยอดผู้ติดเชื้อสะสม จำนวนผู้เสียชีวิต อัตราส่วนของผู้ติดเชื้อต่อจำนวนประชากร 1 ล้านคน อัตราส่วนของผู้เสียชีวิตต่อจำนวนประชากร 1 ล้านคน รวมถึงการตรวจหาการติดเชื้อเป็นอย่างไร มากน้อยแค่ไหน และอัตราส่วนของผู้ติดเชื้อต่อการตรวจหาการติดเชื้อเป็นเท่าใด
โดยสถาบันสัญชาติออสเตรเลียนยกให้เพื่อนบ้านอย่างนิวซีแลนด์ครองอันดับ 1 จากหัวตาราง เป็นประเทศที่สามารถรับมือวิกฤตโควิด-19 ได้ดีที่สุดจากการจัดอันดับในครั้งนี้ ตามมาด้วยเวียดนาม ไต้หวัน ขณะที่ไทยรั้งอันดับที่ 4 จากทั้งหมด 98 แห่ง ขณะที่ออสเตรเลียก็ได้รับการจัดในอยู่ใน 10 อันดับแรก โดยรั้งอันดับที่ 8 จากหัวตาราง
ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้รับการจัดอันดับไม่ดีนัก โดยสหรัฐอเมริกาที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 25 ล้านราย หรือคิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก รวมถึงเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกกว่า 4.3 แสนราย รั้งอันดับที่ 94 ขณะที่อันดับสุดท้ายเป็นของบราซิล ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับ 2 (2.2 แสนราย) เป็นรองเพียงสหรัฐฯ
โดยทั้งสหรัฐฯ และบราซิล ล้วนมีประธานาธิบดีหัวเอียงขวาที่ไม่ผลักดันมาตรการรับมือโควิด-19 อย่างจริงจังตั้งแต่ระยะแรกของการระบาด ไม่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ หรือแม้แต่จะรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดและแพร่กระจายเชื้อ จนประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศติดโควิด-19 เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา แตกต่างจากประเทศหัวตาราง โดยเฉพาะนิวซีแลนด์ ที่ดำเนินมาตรการเชิงรุก ทั้งปิดกั้นพรมแดน กักตัว ตรวจหาการติดเชื้อ เร่งจัดหาวัคซีนและดำเนินมาตรการเยียวยาเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้
Lowy Institute ยังระบุอีกว่า ในการจัดอันดับครั้งนี้ไม่นับรวมประเทศจีน เนื่องจากอาจมีความไม่โปร่งใสและปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชนอยู่มาก อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศส่วนใหญ่ที่อยู่ในอันดับต้นๆ จากหัวตาราง ล้วนเป็นประเทศที่ประชากรไม่มากนัก แต่ละหน่วยของสังคมใกล้ชิดกัน อีกทั้งสถาบันต่างๆ มีประสิทธิภาพ จึงเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการรับมือกับวิกฤตโลกอย่างวิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบัน
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: