จากกรณีที่ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายพาดพิงถึง เบน สมิท ว่าเป็นแสกมเมอร์, แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มทุนสีเทา ล่าสุดวันนี้ (6 ตุลาคม) เบน สมิท ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้ายื่นฟ้องต่อศาลอาญารัชดาภิเษก
ธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ทนายความของเบน สมิท เปิดเผยภายหลังการยื่นฟ้องว่า การอภิปรายของรังสิมันต์เมื่อวันที่ 30 กันยายน ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อธุรกิจของเบนทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์ จึงได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่ง
- คดีแพ่ง: ศาลรับคำร้อง โดยเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
- คดีอาญา: ศาลรับคำร้องในข้อหา หมิ่นประมาท โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 24 พฤศจิกายน
ธนดล ยืนยันว่า การฟ้องร้องครั้งนี้ ไม่ใช่การฟ้องปิดปาก แต่เป็นทางเดียวที่นายเบนจะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
ทนายความของเบนได้ชี้แจงประเด็นที่ถูกพาดพิง โดยระบุว่า:
- ความสัมพันธ์กับ ร.อ. ธรรมนัส: ยอมรับว่า ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเบน รู้จักกันมานานกว่า 1 ปี โดยได้รับการแนะนำผ่าน ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากเบนเคยไปลงทุนทำธุรกิจร่วมกับทักษิณ แต่ยืนยันว่า ไม่เคยทำธุรกิจร่วมกับ ร.อ. ธรรมนัส
- ประวัติอาชญากรรม: ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบหมายแดงหรือหมายจับใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบน สมิท
- ถูก ก.ล.ต. ดำเนินคดี: ยืนยันว่าบุคคลที่ถูก ก.ล.ต. ดำเนินคดีในปี 2564 นั้น เป็นคนละคนกัน เพียงแต่ชื่อมีความคล้ายคลึงกัน
- สัญชาติและที่ปรึกษา: เบนมีสัญชาติกัมพูชาจริง และเคยเป็น ที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลกัมพูชา แต่ไม่เคยเข้าร่วมประชุมหรือรับเงินเดือน
ธนดล ได้ตั้งคำถามฝากไปยังรังสิมันต์ โรม ว่า “แล้วถ้ามันไม่ใช่ตามที่คุณได้อภิปราย แล้วคุณโรมจะรับผิดชอบชีวิตของคุณเบนอย่างไร” หากการอภิปรายเป็นความจริง ก็ให้ไปฟ้องหรือแจ้งความดำเนินคดีได้เลย ตนพร้อมสนับสนุน หากพบความผิดจริงก็จะขอออกจากทีมกฎหมายทันที
ในส่วนของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ทนายความระบุว่า ได้ให้คำแนะนำว่า ไม่ควรฟ้องกลับ รังสิมันต์ เนื่องจากมองว่าเป็นการตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ร.อ. ธรรมนัส ยืนยันจะเข้าไปชี้แจงต่อ กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ที่มีรังสิมันต์เป็นประธาน ในวันที่ 9 ตุลาคมนี้