วานนี้ (19 ธันวาคม) ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้เดินทางเยือนเบลารุส เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้เป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดในภูมิภาค โดยทั้งสองได้หารือกันถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการทหารที่แน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางความวิตกกังวลของหลายฝ่ายว่า รัสเซียอาจพยายามดึงเบลารุสเข้าร่วมในสงครามกับยูเครนด้วย
การประชุมของทั้งสองผู้นำมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังรัสเซียได้เปิดฉากการโจมตีด้วยโดรนกามิกาเซรอบใหม่ สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลายแห่งในกรุงเคียฟของยูเครนและพื้นที่โดยรอบ
โดยในการแถลงข่าวร่วมเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ สองผู้นำเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการต่อต้านแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก พร้อมระบุด้วยว่า พวกเขาเห็นพ้องที่จะสานต่อการซ้อมรบร่วมต่อไป โดยปูตินกล่าวว่า “เราเห็นพ้องที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดร่วมกันต่อไป เพื่อสร้างหลักประกันถึงความปลอดภัยของทั้งสองประเทศ” ขณะที่ลูกาเชนโกกล่าวว่า รัสเซียเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด และเบลารุสไม่สามารถปกป้องเอกราชของชาติได้เพียงลำพังโดยปราศจากความช่วยเหลือของรัสเซีย
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความวิตกกังวลให้กับฝั่งของยูเครนว่า รัสเซียอาจเปิดฉากบุกยูเครนรอบใหม่ โดยใช้เบลารุสเป็นฐาน หลังในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมายูเครนได้กล่าวเตือนอยู่หลายครั้งว่า กองกำลังรัสเซียอาจเตรียมการโจมตีรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะยึดกรุงเคียฟอีกครั้ง สิ่งที่น่าวิตกคือ กรุงเคียฟอยู่ห่างจากชายแดนเบลารุสเพียงแค่ 55 ไมล์ ขณะที่อีกกระแสหนึ่งระบุว่า รัสเซียอาจขอความช่วยเหลือจากเบลารุสในการขัดขวางการจัดส่งอาวุธและความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกที่ผ่านมาทางโปแลนด์
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีกลาโหมจากรัสเซียและเบลารุสลงนามในข้อตกลงฉบับหนึ่งที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ทางทหาร และเบลารุสกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ขณะนี้ทางการกำลังตรวจสอบความพร้อมในการสู้รบของกองกำลัง โดยครั้งสุดท้ายที่เบลารุสประกาศทำเช่นนี้คือไม่กี่วันก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ลูกาเชนโกและปูตินได้พบปะหารือกันแล้วอย่างน้อย 6 ครั้ง แต่การประชุมส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัสเซีย ฉะนั้นทริปเดินทางเยือนครั้งนี้ของปูตินจึงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019
ที่ผ่านมาลูกาเชนโกต้องพึ่งพาปูตินอย่างมาก นับตั้งแต่ที่ผู้นำรัสเซียช่วยเขาปราบปรามการประท้วงครั้งใหญ่ในเบลารุสเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 หลังจากที่ลูกาเชนโกประกาศชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้ง โดยลูกาเชนโกต้องพึ่งพารัสเซียสำหรับความช่วยเหลือทางการเงิน เชื้อเพลิง และความมั่นคง เพื่อรักษาอำนาจที่ยาวนานกว่า 28 ปีของเขา โดยวานนี้ประธานาธิบดีทั้งสองยังได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับราคาก๊าซที่รัสเซียส่งให้กับเบลารุส ถือเป็นการเพิ่มแรงหนุนให้กับลูกาเชนโกมากขึ้น
ด้าน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ธันวาคม) ว่า ยูเครนพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
“การปกป้องพรมแดนของเรา ทั้งกับรัสเซียและเบลารุส คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด” เซเลนสกีกล่าวหลังการประชุมกับกองบัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน “เรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์การป้องกันที่เป็นไปได้”
ก่อนหน้านี้ลูกาเชนโกอนุญาตให้รัสเซียใช้เบลารุสเป็นฐานในการส่งทหารรัสเซียหลายหมื่นนายไปยังยูเครน รวมถึงอนุญาตให้รัสเซียนำเครื่องบินรบมาจอดในฐานทัพของเบลารุสด้วย แต่ถึงเช่นนั้นลูกาเชนโกก็ไม่ได้ร่วมในสงครามโดยตรงหรือส่งทหารไปร่วมรบด้วย
ภาพ: Kremlin Press Office / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
