ส่งท้ายปี 2566 ปีที่คำว่า ‘T-Pop’ ได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสื่อต่างๆ และในกลุ่มแฟนคลับ ด้วยการเดบิวต์อย่างเป็นทางการของวง BUS (because of you i shine) บอยกรุ๊ปวงล่าสุดของวงการเพลงไทย ที่มาพร้อมซิงเกิลเดบิวต์ชื่อเดียวกับชื่อวงอย่างเพลง Because of You, I Shine ในงานโชว์เคสเปิดตัวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
1 คืนก่อนจะถึงวันโชว์เคส ทางต้นสังกัด SONRAY MUSIC ได้ปล่อยทีเซอร์มิวสิกวิดีโอเพลงนี้ออกมา พร้อมท่อนฮุกที่ร้องว่า “ใจมัน Blurry ทำไงมันคิดถึงเธออะดิ You make my heart go padadap pop. Padadap pop, oh!” ซึ่งเรียกความสนใจจากแฟนเพลงได้ไม่น้อย เพราะไม่ทันข้ามคืนก็มีการแกะท่าเต้นลง TikTok กัน โดยฟีดแบ็กถือว่าเป็นไปในทางที่ดี เมื่อเทียบกับคอนเทนต์เกี่ยวกับการเดบิวต์ที่ SONRAY ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ที่ต้องยอมรับว่ามีทั้งคำวิจารณ์ด้านบวกและด้านลบผสมกัน
หากมองในฐานะคนทำเพลง โจทย์ยากของซิงเกิลเปิดตัวของวงที่มีสมาชิกถึง 12 คน ซึ่งมีคาแรกเตอร์แตกต่างกัน ที่ประกอบด้วย อลัน-พศวีร์ ศรีอรุโณทัย, มาร์ค-กฤษณ์ กัญจนาทิพย์, ขุนพล-ปองพล ปัญญามิตร, ฮาร์ท-ชุติวัฒน์ จันเคน, จินวุค คิม, ไทย-ชญานนท์ ภาคฐิน, เน็กซ์-ณัฐกิตติ์ แช่มดารา, ภู-ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล, คอปเปอร์-เดชาวัต พรเดชาพิพัฒ, เอเอ-อชิรกรณ์ สุวิทยะเสถียร, จั๋ง-ธีร์ บุญเสริมสุวงศ์ และ ภีม-วสุพล พรพนานุรักษ์ ทั้งยังเป็นวงที่แต่ละคนมีแฟนคลับที่อยากเห็นเมมเบอร์คนโปรดหรือ ‘เมน’ ของตัวเองโดดเด่น นั่นคือการแบ่งท่อนร้องให้ลงตัว ให้ทุกคนได้ ‘เปล่งประกาย’ ในสายตาแฟนคลับของแต่ละคน จึงไม่แปลกใจที่ซิงเกิลแรกจะมีความยาวกว่า 4 นาที เพื่อเกลี่ยท่อนร้องให้สมาชิกทุกคนในวงอย่างลงตัว
ความสดใสของซิงเกิลนี้ต้องยกเครดิตให้คนทำงานเบื้องหลังอย่าง SMEW แรปเปอร์รุ่นใหม่ที่เขียนเนื้อเพลงออกมาได้สนุกสมกับคาแรกเตอร์มวลรวมของ BUS ใช้คำที่ติดหูได้ไม่ยาก และสะท้อนถึงคอนเซปต์ของวงที่ต้องการย้ำว่า ศิลปินเปล่งประกายได้ก็เพราะแรงสนับสนุนของทุกคนนั่นเอง เพลงนี้จึงเป็นการแทนคำขอบคุณของพวกเขาด้วย
คนเบื้องหลังอีกคนที่ต้องไฮไลต์ก็คือโปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่าง Mek Machina ที่รู้กันในวงการเพลงว่า เก่งในเรื่องการใส่ลูกเล่นต่างๆ ลงในเพลง ทำให้ Because of You, I Shine กลายเป็นเพลงที่ซาวด์เพลงหวือหวา เพราะมีทั้งกลิ่นอายของดนตรีฮิปฮอปและอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังฟังง่ายตามแบบของเพลงป๊อปที่ดี
ที่สำคัญในแต่ละท่อนยังมีลูกเล่นแพรวพราวที่ทำให้ทุกท่อนมีความเด่นในตัวเอง เมื่อนำมาแบ่งท่อนให้สมาชิกในวงแต่ละคนรับผิดชอบ จึงได้ผลลัพธ์เป็นเพลงที่ทุกคนมีซีนและไม่มีใครจม เรียกว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เพลงนี้มีความแข็งแรง
ภายในงานเดบิวต์โชว์เคส เริ่มด้วยเพลงที่ออกมาก่อนเดบิวต์ทั้งสามเพลง ซึ่งแฟนๆ คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วอย่าง Blind Spot, Road Trip และ Forget Me Not ที่แม้ทุกคนจะเคยโชว์เพลงนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็มีพัฒนาการที่ทำให้เห็นว่า พวกเขาสามารถทำให้เพลงทั้งหมดเท่ขึ้น สดใสขึ้น และซึ้งขึ้นได้ตามลำดับของมู้ดในแต่ละเพลง
โชว์เคสคั่นด้วยการพูดคุยกันเกี่ยวกับการทำงานเบื้องหลังของเพลงนี้ ก่อนจะเปิดตัวมิวสิกวิดีโอและการโชว์เพลงนี้เป็นครั้งแรกของ BUS ปิดท้ายด้วยเซอร์ไพรส์ด้วยการทำโปรเจกต์จากแฟนเพลงที่กลายเป็นซีนซึ้งๆ ในโชว์เคสครั้งนี้
ตัวมิวสิกวิดีโอที่ถ่ายทำในหลายโลเคชัน รวมถึงบริเวณหน้าวัดพระแก้ว เป็นส่วนหนึ่งของการส่งข้อความจากต้นสังกัดและ BUS ว่า พวกเขาพร้อมจะพาเพลงนี้ไปไกลกว่าประเทศไทย จึงได้นำเอาสิ่งที่เป็นแลนด์มาร์กของไทยมาเป็นส่วนหนึ่งของมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแส ‘เอ๊ะ’ กับสไตลิ่งของเสื้อผ้าที่เห็นในการถ่ายทำโลเคชันนี้ ซึ่งเป็นเซ็ตเดียวกันกับที่เห็นในภาพถ่ายคอนเซปต์ของวง แต่เมื่อได้การออกแบบท่าเต้นของ KANU นักออกแบบท่าเต้นชาวญี่ปุ่นที่เคยร่วมงานกับ NCT DREAM ที่ไฮไลต์ความสดใสให้เข้ากับแนวเพลง ก็ทำให้กลบความกังขานี้ไปได้
สำหรับ TADA Entertainment เรื่องของการคัดศิลปินและดึงเสน่ห์ของแต่ละคนออกมาน่าจะผ่านการพิสูจน์แล้วตั้งแต่ยุคนาดาว บางกอก จำนวนแฟนคลับและยอดเอ็นเกจเมนต์ของสมาชิกทั้ง 12 คนของ BUS เองก็เป็นอีกสิ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ได้เช่นกัน เพราะเฉพาะแค่งานเดบิวต์โชว์เคสก็มีการพูดถึงบน X (Twitter) มากกว่า 1.15 ล้านโพสต์ ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ดังนั้น เรื่องที่น่าจับตามองมากกว่าก็คือ ก้าวต่อไปหลังจากเดบิวต์แล้วจะเป็นอย่างไร
คำถามนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ประกาศว่าใครเป็นสมาชิกที่จะได้เดบิวต์บ้าง เพราะช่วงระยะเวลา 4 เดือนหลังจากจบรายการ 789SURVIVAL จนถึงวันเดบิวต์ ถือเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับรายการประเภทเดียวกันในเกาหลีหรือจีน จนเกิดเป็นคำถามที่ต่อเนื่องไปถึงอนาคตของวงว่าจะมีผลงานออกมาบ่อยแค่ไหน และจะสามารถเพิ่มจำนวนแฟนๆ ที่อยู่ ‘นอกด้อม’ ในปัจจุบันได้มากขึ้นหรือเปล่า เพราะการเพิ่มฐานแฟนคลับเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้วงเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคง
ในงานเดบิวต์โชว์เคสได้มีการตอบข้อสงสัยเรื่องนี้ด้วยการบอกว่า ปีหน้าจะมีซิงเกิลออกมาให้ฟังอีกหลายเพลง และมีแพลนว่าหลังจากซิงเกิลทั้งหมดครบเป็นอัลบั้มแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวง ในส่วนของการทำเพลงนี้ก็เป็นการตั้งใจให้เป็นเพลงที่แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับของวงอยู่แล้วสามารถเข้าถึงได้และสนุกไปกับเพลงด้วย
ถ้า SONRAY ทำตามแผนที่วางไว้ได้ เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นของวงการ T-Pop และถ้ามีการคอลแลบกันระหว่าง T-Pop วงอื่นๆ ด้วย ก็คงเกิดเป็นภาพที่สนุกและช่วยยกระดับวงการเพลงไทยได้อย่างน่าสนใจ