ช่วงวัย 30-40 ปี สำหรับผู้หญิง ถือเป็นวัยที่ผ่านการฝ่าฟันอุปสรรคสำคัญในชีวิตมาแล้วมากมาย ผ่านมาทั้งเรื่องการเรียน งานแรกที่ทำ รวมถึงบางจุดเปลี่ยนในชีวิตทั้งดีและร้าย แต่ถึงอย่างไรสาวๆ ก็เก่งกันมากที่ดำเนินชีวิตมาถึงวัย 30-40 ปีอย่างน่าภูมิใจ แต่ในขณะที่ชีวิตเริ่มตั้งหลักได้และเตรียมก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงกว่าเดิม มีสิ่งหนึ่งที่กำลังวิ่งสวนทางกับการประสบความสำเร็จในชีวิต นั่นคือการร่วงโรยของผิว ยิ่งอายุมากขึ้น ปัญหาผิวที่ต้องเผชิญก็ยิ่งมากมายกว่าเดิม การลงทุนกับเครื่องสำอาง สกินแคร์ รวมถึงอุปกรณ์ความงามที่เหมาะสมกับวัย ที่สามารถมีกำลังใช้จ่ายกับการดูแลตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เราจะพาสาวๆ ไปเช็กลิสต์กันว่า เมื่ออยู่ในวัย 30-40 ปี เราควรมีอะไรเป็นบัดดี้คู่ใจในการดูแลผิวให้สวยปังไปนานๆ 

 

1. ลิปสติกคุณภาพดี ที่ใช้งานได้คุ้มค่า 

We Say: เหตุผลที่เราปันใจให้ลิปสติกดีๆ โดยไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบเรื่องราคา นั่นเป็นเพราะผลลัพธ์ที่ได้จากการทาลิปสติกเนื้อดี คุณภาพแจ่ม ไม่เพียงจะช่วยเสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว ยังช่วยตัดปัญหาจุกจิกเรื่องคุณภาพของลิปสติกไปได้เยอะเลย เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าตัวคุณคือใคร คุณเหมาะสมกับอะไร และเฉดสีแบบไหนที่จะแสดงถึงความปังทั้งในมิติของการใช้ชีวิต (ทาลิปสีโปรดสวยๆ ใน Everyday Look) และมิติความเป็นมืออาชีพในหน้าที่การงาน (ทาลิปที่แสดงถึงความมั่นใจ ในโทนสีสวยตลอดวัน ที่ส่งเสริมใบหน้าของสาวๆ ให้สง่า ดูดี และชวนหลงใหล) 

 

โดยลิปสติกคุณภาพดีที่เราแนะนำ ประกอบด้วย

 

 

• M.A.C Love Me Liquid Lipcolour สีที่ลิซ่า แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ M.A.C ใช้ก็คือสี E For Effortless โทนสีแดงเบอร์กันดี และสี My Lips Are Insured ติดทนนาน 12 ชม. ไม่แห้งแตก ไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน ทาลิปสีแต่เหมือนได้ทาลิปบำรุง (1,250 บาท) 

 

 

• Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick เป็นหนึ่งในลิปสติกที่ควรค่าแก่การเสียเงิน แนะนำเฉดสีโทนนู้ด Pillow Talk ที่ใช้ทาเพื่อครีเอต Everyday Look แบบธรรมชาติก็ได้ หรือจะทาเพื่อแมตช์กับการแต่งตาแบบสโมกกี้อายก็ออกงานได้อย่างสง่างาม (1,350 บาท) 

 

 

• Chanel Rouge Coco Bloom เป็นลิปสติกที่ควรมีติดกระเป๋าสักแท่ง โดยเฉพาะรุ่นนี้ซึ่งมาใหม่ล่าสุด จุดเด่นคือเป็นลิปสติกแบบ All in One ที่ให้สีสวยชัดติดทนนาน ทาแล้วริมฝีปากอวบอิ่ม แวววาว มีความชุ่มชื้น หยิบออกมาทาเมื่อไรก็รู้สึกสวย (1,450 บาท) 

 

2. Beauty Gadget ที่ลงทุนครั้งเดียว ใช้ดูแลผิวไปยาวๆ 

We Say: แม้ว่า วัย 30-40 ปีจะเป็นวัยที่มีกำลังพอที่จะแวะเวียนเข้าสปาหรือคลินิกความงามอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 และหน้าที่การงานที่ยากง่ายแตกต่างกันในแต่ละวัน ทำให้การหาเวลาว่างไปคลินิกหรือสปาทำได้น้อยลง แต่สาวๆ วัยนี้สามารถลงทุนกับ Beauty Gadet ที่ช่วยให้การดูแลผิวพรรณสามารถทำได้บ่อยครั้งที่บ้านของตัวเอง เราแนะนำ

 

 

FOREO UFO™ เครื่องมาสก์หน้าอัจฉริยะที่ทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชันในการตั้งโปรแกรมทรีตเมนต์ได้อย่างชาญฉลาด มีการใช้เทคโนโลยี Hyper-Infusion อย่าง Thermo (ใช้อุณหภูมิ 20-50 องศาฯ ในการเปิดรูขุมขนให้ส่วนผสมของมาสก์เข้าผิวได้ลึกขึ้น), Cryo (ใช้อุณหภูมิ 4-20 องศาฯ ช่วยลดอุณหภูมิและลดอาการบวม) และ T-Sonic™ Pulsation (ใช้การกระตุ้น 10,000 ครั้งต่อนาที เพื่อช่วยให้ผิวดูดซึมส่วนผสมจากมาสก์ได้ง่าย และช่วยนวดผิวหน้าให้ผ่อนคลายไปในตัว) ผสมผสานกับไฟ LED RGB เพิ่มการดูดซึมของผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนแผ่นมาสก์ให้ตรงเข้าบำรุงผิวหน้าของสาวๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (10,000 บาท) ส่วนมาสก์ Make My Day และ Call it A Night (390 บาท), Advanced และ Farm To Face Collection ( 700 บาท) 

 

3. ครีมกันแดดถ้าเลือกได้ดี ผลลัพธ์หลังการใช้ก็ดีตาม 

We Say: วัย 30 Up จะเป็นวัยที่เริ่มต้นเผชิญกับปัญหาผิวเล็กๆ ที่จะนำไปสู่ปัญหาผิวใหญ่ๆ ได้ในอนาคตเมื่ออายุมากขึ้น เช่น ริ้วรอยฝ้ากระ จุดด่างดำ ความหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ ใครที่หมั่นทาครีมกันแดดมาตลอดตั้งแต่เด็กก็จะได้เปรียบ เพราะประโยชน์ของครีมกันแดดนั้นช่วยป้องกันผิวจากรังสี UVA, UVB ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวมากมาย เราแนะนำครีมกันแดดคุณภาพดีที่ใช้แล้วมั่นใจได้ในคุณภาพคับหลอด ดังนี้

 

 

• Supergoop! Unseen Sunscreen Broad Spectrum Sunscreen SPF 40 PA+++ ตัวนี้ซื้อแล้วคุ้มค่าเงิน เพราะเป็นได้ทั้งไพรเมอร์และกันแดด SPF40 PA+++ เพราะวัย 30-40 ปีเป็นวัยที่ต้องแต่งหน้าในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ไอเท็มนี้จะช่วยล็อกเมกอัพให้ติดทน เนื้อบางเบา ไร้กลิ่น และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเข้มข้น ทั้งยังช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี (1,270 บาท) 

 

 

• Estee Lauder Perfectionist Pro Multi-Defense Aqua UV Gel SPF 50/PA++++ เป็นครีมกันแดดเนื้อเจลบางเบาในคอลเลกชัน Perfectionist Pro ซึมเข้าสู่ผิวชั้นนอกได้อย่างรวดเร็ว ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดในระดับสูง ด้วย SPF 50/PA++++ ทรงพลังที่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB  (2,200 บาท) 

 

4. สกินแคร์ที่ใช้แล้วเวิร์ก ต้องเลือกให้ตรงกับสภาพผิวและอายุ 

We Say: เมื่ออายุเริ่มแตะเลข 3 กระบวนการต่างๆ ของร่างกายก็จะค่อยทำงานด้วยประสิทธิภาพที่น้อยลง สวนทางกับอายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิตน้ำมันของผิวตามธรรมชาติ เริ่มปรากฏสัญญาณแห่งวัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รวมถึงปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม การเลือกสกินแคร์ที่ใช่ จึงควรเลือกให้ตรงกับสภาพของตัวเอง และควรเริ่มมองส่วนผสมหรือสารสกัดที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต้นเหตุของผิวแก่ก่อนวัย และผลิตภัณฑ์ที่เราแนะนำสำหรับช่วงวัย 30-40 ปี มีดังนี้

 

 

• Dior Capture Youth Age-Delay Matte Maximizer Mattifying Serum เซรั่มที่คุมความมันได้ดี เหมาะกับผิวขาดสมดุล มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนอำพรางรูขุมขน และฟื้นฟูผิวให้แลดูละเอียดขึ้น (4,100 บาท) 

 

 

• Shiseido Benefiance Wrinkle Smoothing Cream ครีมบำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว มีส่วนผสมของวิตามินมากมายให้ผิวสุขภาพดี ช่วยดูแลสมดุลของผิว และลดริ้วรอยแรกเริ่มให้ดูลดเลือนลง (2,500 บาท) 

 

 

• Caudalie Premier Cru Eye Cream วัย 30-40 ปีไม่ควรขาดอายครีม กฎเหล็กคือต้องทาทุกวัน ทั้งตอนเช้าก่อนแต่งหน้า และก่อนนอน จะช่วยให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้น ลดถุงใต้ตา กระชับเนียน (3,220 บาท) 

 

5. น้ำหอมกลิ่นโปรดที่ตรงกับบุคลิกของตัวเอง

We Say:  อีกหนึ่งไอเท็มที่เป็นดั่งเพื่อนคู่ใจของสาวๆ ทุกคน คือน้ำหอม เป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตน รวมถึงรสนิยมของแต่ละคน นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นใจแล้ว กลิ่นหอมที่เราตกหลุมรัก ยังช่วยสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในทุกวันที่ออกไปใช้ชีวิตได้อีกด้วย เราอยากแนะนำน้ำหอมออกใหม่ที่น่าสนใจในเวลานี้  

 

 

• Gucci Guilty Eau de Toilette Pour Femme น้ำหอมใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Gucci Beauty ที่มาพร้อมการดีไซน์ขวดน้ำหอมใหม่ โดดเด่นด้วยสีโรสโกลด์เมทัลลิก ที่เหมาะเหลือเกินกับสาวๆ ที่รักอิสระ แต่อยากคงสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครอย่างมีชั้นเชิง (ราคาสอบถามที่เคาน์เตอร์) 

 

 

• Eternity Eau Fresh For Her จากแบรนด์ CALVIN KLEIN เป็นแนวกลิ่นดอกไม้ที่มีความโรแมนติก กลิ่นนี้ใครอยู่ใกล้จะรู้สึกสดชื่น เพราะมีความโดดเด่นจากกลิ่นท็อปโน้ตที่สดชื่นอย่างกลิ่นผลแพร์ ตามมาด้วยกลิ่นหอมที่เป็นการผสมกันระหว่างดอกมะลิ การ์ดิเนีย กุหลาบ และพีโอนี ขนาด 50 ml. (3,250 บาท) 

 

 

• Dolce & Gabbana Dolce Rose EDT เป็นน้ำหอมที่เสริมความมีชีวิตชีวาด้วยแนวกลิ่นฟรุตตี้ที่ได้จากแอปเปิ้ลเขียว ส้มแมนดาริน ผสานกับความหอมฉ่ำๆ ของเรดเคอร์แรนต์ รวมถึงกลิ่นพีช ดอกแมกโนเลีย และดอกกุหลาบ ขนาด 50 ml. (3,300 บาท) 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล