บัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ 5 ปีนับจากนี้ไป (2563-2567) บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15 % ใน 5 ปี ด้วยแผนยุทธศาสตร์ 4E’s ประกอบด้วย
– Expanding การขยายธุรกิจโดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก
– Extending การขยายธุรกิจด้าน Digital Energy รับการเปลี่ยนแปลงของโลก ผ่านการพัฒนาสินค้าและบริการด้านดิจิทัล เอนเนอร์ยี ร่วมกับบริษัทในกลุ่มบางจาก รวมถึงพัฒนาช่องทางทางการตลาดผ่านพันธมิตรอื่น
– Enhancing BCPG ติดตามและมองหาโอกาสในการเพิ่มรายได้จากโครงการที่มีในปัจจุบัน อาทิ การใช้เทคโนโลยีไฮบริด (Hybrid) โดยการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เป็นต้น
– Evaluating มีทีมเฉพาะทำหน้าที่ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของทุกโครงการ เพื่อปรับปรุง พัฒนา บริหารจัดการโครงการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ตลอดเวลา ทั้งในด้านเทคนิคและในด้านโครงสร้างทางการเงิน
ทั้งนี้ภายในปี 2568 BCPG จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งนอกจากจะสามารถชดเชยส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ที่จะทยอยหมดลงไปแล้ว ยังมีการเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 10-15% จากนี้ไป การเติบโตของ EBITDA ดังกล่าวจะมาจาก
1.การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นจำนวน 4 โครงการ กว่า 14.7 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ
2.การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในประเทศอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการส่วนต่อขยายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า และโครงการอื่นที่ได้รับสิทธิการสำรวจ
3.โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้แก่ เขื่อน Nam San 3A และเขื่อน Nam San 3B ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี และตั้งแต่ปี 2565 จะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามในราคาสูงขึ้น มีการรับประกันการรับซื้อไฟในรูปแบบ Take-or-Pay และมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วยการรับชำระค่าไฟฟ้าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทั้งจำนวน
4.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 600 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว ที่บริษัทฯ กำลังพัฒนาผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน อิมแพค เอนเนอร์ยี เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Impact Energy Asia Development Limited) อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทผลิตกังหันลม และอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าของรัฐบาลเวียดนามคาดว่าจะก่อสร้างและแล้วเสร็จภายในปี 2566
5.รายได้จากธุรกิจขายปลีก (Retail) เป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัล เอนเนอร์ยี อยู่ในระหว่างการทำการตลาดผ่านคู่ค้าในกลุ่มธุรกิจ Internet Service Provider
“ภายใต้แผนเติบโตกว่าเท่าตัว หรือ 10-15% ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ จะใช้เงินลงทุนรวมมากกว่า 45,000 ล้านบาท บริษัทฯ มั่นใจว่าแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน เลือกลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูง ในความเสี่ยงที่สามารถบริหารจัดการได้ดีนั้น การหาแหล่งเงินลงทุนเป็นเรื่องที่จัดการได้”
ผลการดำเนินการในปี 2562 กลุ่มบริษัท BCPG มีรายได้จากการขายและบริการ 3,427 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม หลังหักค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่ 2,955 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,801 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.90 บาท รวมทั้งมีการจ่ายปันผลคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอเท่ากับ 0.48 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (Dividend Yield) ประมาณ ร้อยละ 3.95 (คำนวณเต็มปี)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์