×

BBL – 4Q65 กำไรสุทธิต่ำกว่าคาด เพราะขาดทุนจาก FVTPL

20.01.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 7.57 พันล้านบาท (ลดลง 1%QoQ เพิ่มขึ้น 20%YoY) ต่ำกว่าประมาณการที่ 9.3 พันล้านบาท และประมาณการของ Consensus ที่ 8.4 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากการขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) จำนวน 1.96 พันล้านบาท

 

สำหรับรายการสำคัญในผลประกอบการ 4Q65 มีดังนี้

 

  1. คุณภาพสินทรัพย์ดีกว่าคาด โดย NPL ลดลง 9%QoQ ส่งผลทำให้อัตราส่วน NPL ลดลง 20 bps QoQ และ Credit Cost ลดลง 30 bps QoQ สู่ 1.16% ใน 4Q65 ส่งผลทำให้ Credit Cost ปี 2565 อยู่ที่ 1.24% LLR Coverage เพิ่มขึ้นจาก 230% ณ 3Q65 สู่ 261% ณ 4Q65

 

  1. การเติบโตของสินเชื่อลดลง 4%QoQ (จากการชำระคืนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่จำนวนมาก) เพิ่มขึ้น 4%YoY แย่กว่าคาด

 

  1. NIM สูงกว่าคาดอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้น 35 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 49 bps QoQ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 17 bps QoQ

 

  1. Non-NII ลดลง 37%QoQ (ลดลง 53%YoY) โดยเกิดจากการขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธี FVTPL จำนวน 1.96 พันล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 1%QoQ (ลดลง 9%YoY)

 

สำหรับปี 2565 Non-NII ลดลง 30% (กำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธี FVTPL และเงินลงทุนและ NPA ลดลง) และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง 6% (รายได้ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับตลาดทุนลดลง)

 

  1. อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เพิ่มขึ้น 629 bps QoQ ตามฤดูกาล แต่ลดลง 283 bps YoY ใน 4Q65 และลดลง 82 bps ในปี 2565

 

กระทบอย่างไร:

ในวันนี้ ราคาหุ้น BBL ปรับลดลง 1.62%DoD อยู่ที่ระดับ 152.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.69%DoD อยู่ที่ระดับ 1,676.90 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุนและแนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปี 2566 ของ BBL เพิ่มขึ้น 8% โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 45% (เทียบกับ 11% ในปี 2565) และปรับประมาณการ NIM ปี 2566 เพิ่มขึ้น 15 bps เพื่อสะท้อนการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น 40 bps ในเดือนมกราคม ซึ่งมากกว่าการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 23 bps และดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

สำหรับปี 2566 คาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 5% NIM จะขยายตัว 28 bps Credit Cost จะลดลง 9 bps และ Non-NII จะเพิ่มขึ้น 7%

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research คงเรตติ้ง OUTPERFORM และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นสู่ 180 บาทต่อหุ้น (0.64 เท่าของประมาณการ BVPS ปี 2566) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการ NIM ปี 2566 เพิ่มขึ้น และคาดกำไร 1Q66 จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ

  1. ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และ
  2. ผลกระทบจาก FinTech

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X