BBIK เผย 3 กองทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นบิ๊กล๊อต 4.8 ล้านหุ้น จากผู้บริหารระดับสูง 3 ราย รวมมูลค่า 288 ล้านบาท ระบุ นักลงทุนสถาบันมั่นใจศักยภาพการเติบโตระยะยาว หลังทำรายได้และกำไรนิวไฮติดต่อกัน 5 ปีซ้อน พร้อมปักธงปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 50%
บมจ.บลูบิค กรุ๊ป หรือ BBIK เปิดเผยว่า 3 กองทุนต่างชาติเจรจาขอซื้อหุ้น Big Lot จำนวนทั้งหมด 4.8 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 60 บาท จากผู้บริหารและกรรมการบริษัท 3 ราย ประกอบด้วย พชร อารยะการกุล เจ้าหน้าที่บริหาร, ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ กรรมการบริษัท และ พิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ กรรมการบริษัท โดยระบุว่า กองทุนต่างชาติมั่นใจหลังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทที่ทำรายได้และกำไรนิวไฮติดต่อกัน 5 ปีซ้อน (พ.ศ. 2560-2564) และพร้อมเดินหน้าสร้างผลงาน All Time High ต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งคาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างโดดเด่นไม่น้อยกว่า 50% โดยมียอด Backlog กว่า 385 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2570
พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIK ผู้ดำเนินธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ครบวงจร เปิดเผยว่า วันนี้ (22 มีนาคม) ผู้บริหารบริษัท 3 รายได้ทำรายการขายหุ้นผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (Big Lot) ให้กับกองทุนต่างชาติทั้งหมด 3 ราย จำนวน 4.8 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 60 บาท หรือคิดเป็น 4.8% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด รวมมูลค่า 288 ล้านบาท
“กองทุนต่างประเทศทั้ง 3 ราย ให้ความสนใจในธุรกิจของ BBIK หลังจากเห็นการเติบโตเชิงรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งแผนการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศของเราสอดรับกับกระแส Digital Transformation ที่ยังคงแรงต่อเนื่องทั่วโลก โดยบริษัทได้ทุ่มงบลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาทสำหรับการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในปีนี้” พชรกล่าว
โดยก่อนหน้านี้ BBIK ได้ร่วมมือกับ OR จัดตั้ง Orbit Digital รวมทั้งการเข้าลงทุนในบริษัท จีเอ็มวีพาย และกำลังจะปิดดีลอีก 1 แห่งเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและตอกย้ำความเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้าน Digital Transformation นอกจากนั้นยังมีแผนการขยายบริการไปยังต่างประเทศผ่านบริษัทในเครือ บลูบิค โกลบอล รวมทั้งข่าวดีเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่คาดว่าจะได้รับอนุมัติจาก BOI ในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลถึง 8 ปี ดังนั้นการเติบโตของบริษัทจะเป็นไปอย่างโดดเด่นและมีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
สำหรับผลประกอบการประจำปี 2564 บริษัททำรายได้และกำไรเติบโตมากกว่า 50% โดยมีรายได้รวม 303.69 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 66.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 200.53 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 44.29 ล้านบาท พร้อมอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.375 บาทอีกด้วย
สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ณ วันที่ 11 มีนาคม 2565 มีดังนี้
- บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 25%
- พชร อารยะการกุล ถือหุ้น 19.91%
- ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ ถือหุ้น 11.61%
- เชิงชัย เจริญจิตเสรีวงศ์ ถือหุ้น 4.41%
- ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 3.75%