×

ส่องโอกาส ‘BBIK’ หุ้น IPO เมื่อภาคธุรกิจไทยกำลังมุ่งสู่วัฏจักร Digital Transformation เพื่อให้เข้ากับเมกะเทรนด์โลก

15.09.2021
  • LOADING...
BBIK

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • การเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่งองค์กรธุรกิจของไทยไม่ยอมตกขบวน โดยภาคธุรกิจแรกของไทยที่เห็นการปรับตัวชัดสุดคือกลุ่มธนาคารและการเงิน
  • ภาพรวมตลาด Digital Transformation ในไทยจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 4.42 แสนล้านบาทในปี 2568 หรือเพิ่มขึ้น ​​57.85% จากปีนี้ที่มูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท 
  • BBIK ในฐานะที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation เจ้าแรกของประเทศ จึงคว้าโอกาสนี้สร้างการเติบโตให้องค์กร โดยก้าวแรกคือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 

หากพูดถึงคำว่า Digital Transformation ในช่วงเวลานี้คงไม่มีใครไม่เข้าใจความหมาย แท้จริงแล้ว Digital Transformation หรือการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล ได้รับความสนใจในภาคธุรกิจของไทยไล่เลียงมากับคำว่า Internet of Things หรือ IoT แตกต่างกันที่ Digital Transformation ครอบคลุมกระบวนการมากกว่า  

 

พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation รายแรกของไทย กล่าวว่า Digital Transformation เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก โดยประเทศเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ ล้วนเดินหน้าเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัลกันไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป ส่วนฝั่งเอเชีย ผู้กระโดดเข้าเทรนด์นี้ก่อนคือประเทศจีน 

 

“เพราะช่วงเวลานี้ ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นจากความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เข้ามาเร่งตลาดให้เกิดการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา รวมถึงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมากลายมาเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ทุกองค์กรตระหนักว่ารูปแบบการดำเนินงานของธุรกิจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นการปรับตัว เอาตัวรอด และเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” 

 

อ้างอิงจากข้อมูลของไมโครซอฟท์และไอดีซี เอเชียแปซิฟิกในปี 2564 ภาพรวมตลาด Digital Transformation ในประเทศไทยจะมีมูลค่ารวม 2.8 แสนล้านบาท และเพิ่มเป็น 4.42 แสนล้านบาทในปี 2568 คิดเป็นอัตราการขยายตัว 57.85% และมีผลต่อการเติบโตของ GDP ประเทศเฉลี่ยปีละ 0.4%

 

สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดโลก ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจาก MarketsandMarkets ที่ระบุว่า ในปี 2563 มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 4.69 แสนล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2568 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 16.5% ต่อปี

 

BBIK ในฐานะที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation เจ้าแรกของประเทศ มองเห็นโอกาสจากการเติบโตของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดย BBIK เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 25 ล้านหุ้น ในราคา 18 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าระดมทุนราว 450 ล้านบาท และจะเข้าซื้อขายวันแรกในวันที่ 16 กันยายนนี้ 

 

พชร กล่าวถึงแผนการใช้เงินระดมทุนว่า จะใช้สำหรับเพิ่มศักยภาพแก่องค์กรผ่านการพัฒนาบุคลากรของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 150 ราย แบ่งเป็น

 

  1. ลงทุนเพิ่มบุคลากรและเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับบุคลากรเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท จำนวน 67.50 ล้านบาท 
  2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล จำนวน 67.50 ล้านบาท 
  3. พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในองค์กร จำนวน 22.50 ล้านบาท 
  4. เพื่อใช้ขยายพื้นที่สำนักงาน จำนวน 45 ล้านบาท 
  5. ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 135 ล้านบาท

 

“สินทรัพย์หลักของเราคือบุคลากร เรียกได้ว่า BBIK มี Light Asset เป็นส่วนใหญ่ การ Upskill และ Reskill จึงมีความสำคัญมากๆ เนื่องจากการเป็นที่ปรึกษาจำเป็นต้องบ่มเพาะประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจนั้นๆ อย่างแท้จริง เพื่อช่วยลูกค้าปรับองค์กรและสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างตรงโจทย์และความต้องการ งานของ BBIK จึง Tailor Made และเราก็เชื่อว่ามันไม่มีสูตรสำเร็จในการทำธุรกิจที่เหมาะสมกับทุกองค์กร”

 

พชร ประเมินว่า โอกาสการขยายธุรกิจของ BBIK นั้นมีอยู่อีกมาก เพราะตลาด Digital Transformation ในประเทศไทยนั้นเพิ่งเริ่มต้น โดยภาคธุรกิจที่เห็นการเปลี่ยนผ่านองค์กรที่ชัดเจนสุดในประเทศไทยคือกลุ่มการเงิน โดยเฉพาะภาคธนาคาร เนื่องจากเป็นบริการที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ภาคธนาคารจึงต้องปรับตามไปด้วย ขณะที่กลุ่มประกันเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างกระบวนการเปลี่ยนผ่าน ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศก็เป็นอีกกลุ่มที่กำลังเริ่มเข้าสู่กระบวนการ

 

โดยปกติแล้ว รอบปกติของการเปลี่ยนผ่านองค์กรอยู่ราว 10 ปี โดยจะไล่เลียงไปตามภาคธุรกิจต่างๆ และเมื่อแทบทุกองค์กรในประเทศเปลี่ยนผ่านองค์กรกันแล้ว ก็จะเกิดการทรานส์ฟอร์มรอบใหม่ขึ้นมาด้วยปัจจัยหรือตัวแปรอื่นๆ  

 

“ตลาด Digital Transformation ในไทยเรียกได้ว่าเป็น Blue Ocean หากให้มองภาพสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านองค์กร มองว่าปลายทางของภาคธุรกิจของไทยจะใกล้เคียงกับประเทศจีน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าบริษัทจีนมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก และเป็นการเปลี่ยนผ่านทั้งภาคธุรกิจและภาคผู้บริโภค ซึ่งประเทศไทยเองก็กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นที่จะไปสู่ภาพนั้น”

 

ขณะที่โอกาสในการขยายธุรกิจในต่างประเทศไทย BBIK มองเป้าหมายหลักที่ประเทศสิงคโปร์และอินโดนีเซีย โดยปัจจุบัน BBIK มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 5-10% ของรายได้รวมและวางเป้าหมายขยับสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 20-30% 

 

ทั้งนี้ BBIK มีธุรกิจหลัก 5 ด้าน ดังนี้

 

  1. บริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ (Management Consulting) 
  2. บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic PMO) 
  3. บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery)   
  4. บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Big Data & Advanced Analytics)   
  5. บริการด้านทรัพยากรบุคคลชั่วคราวที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที (IT Staff Augmentation) 

 

ปี 2561 รายได้ 132.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19.22 ล้านบาท

ปี 2562 รายได้ 184.94 ล้านบาท กำไรสุทธิ 31.71 ล้านบาท

ปี 2563 รายได้ 200.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44.29 ล้านบาท 

รายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่อัตรา 22.9%

กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่อัตรา 55.8%

 

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้ 126.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 30.06 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิที่ 23.67% 

 

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 BBIK ตั้งเป้าหมายรักษาอัตราการเติบโตที่ระดับ 20-30% โดยเชื่อมั่นว่าภายหลังการเข้าระดมทุนครั้งนี้จะช่วยปลดล็อกทางธุรกิจ เสริมศักยภาพให้สามารถรองรับตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงได้ โดยปัจจุบัน BBIK มีส่วนแบ่งการตลาดราว 5% 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X