จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานในญี่ปุ่นเผยว่า ฐานเงินเดือนของญี่ปุ่นปรับขึ้นราว 2.5% ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มากที่สุดในรอบ 31 ปี นับตั้งแต่ปี 1993 ส่งสัญญาณบวกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
โดยตัวเลขการปรับขึ้นของเงินเดือนไม่รวมโบนัสและค่าทำงานล่วงเวลา (OT) และตัวเลขดังกล่าวยังประกาศออกมาหลังจากที่ RENGO สหภาพแรงงานขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ตกลงจะขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานญี่ปุ่นในปี 2024 ที่ 5% ซึ่งเป็นอัตราการขึ้นเงินเดือนที่มากที่สุดในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ปี 1991
การปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่สูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของญี่ปุ่นกำลังจะเป็นตัวเร่งให้ภาพการบริโภคปรับตัวดีขึ้น นำไปสู่เงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอาจนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนนี้เลยทีเดียว หลังปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แต่นักวิเคราะห์ก็ประเมินว่า อัตราการขึ้นเงินเดือนของพนักงานยังตามหลังตัวเลขเงินเฟ้อและแนวโน้มการใช้จ่ายของญี่ปุ่นที่ยังชะลอตัว ทำให้ BOJ อาจต้องระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ในขณะนี้
ไม่เพียงเท่านั้น สมมติฐานของการขึ้นเงินเดือนแล้วทำให้การจับจ่ายเพิ่มขึ้นก็ยังไม่ได้ข้อสรุป จากการที่ตัวเลขการใช้จ่ายของเดือนพฤษภาคมที่ตกลง 1.8% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ตัวเลขยอดขายค้าปลีกกลับปรับขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้
ณ ขณะนี้เงินเฟ้อยังเป็นแรงกดดันสำคัญของคนญี่ปุ่น จากค่าเงินที่อ่อนลงอย่างต่อเนื่องก็มีโอกาสทำให้ผู้บริโภคต้องเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น (Cost-Push Inflation)
โดยตัวเลขดัชนีผู้บริโภคปรับขึ้น 2.6% ในเดือนพฤษภาคม แซงหน้าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2%
Shunichi Suzuki นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อยังเป็นสิ่งที่รบกวนใจอยู่ในตอนนี้ แม้บริษัทในประเทศจะขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษก็ตาม เนื่องจากเงินเฟ้อมาจากปัจจัยต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้นและค่าเงินที่อ่อนลง ซึ่งอาจต้องรอผลของการขึ้นเงินเดือนให้สะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจได้จริงในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี
ไม่เพียงเท่านั้น ญี่ปุ่นยังเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานนอกภาคการผลิตในรอบ 30 ปีอีกเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลมองว่าการขึ้นเงินเดือนอาจช่วยบรรเทาผลกระทบเหล่านี้ได้บ้าง
ขณะที่ BOJ คาดหวังให้การบริโภคภาคเอกชนกลับมา เพื่อบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ระยะฟื้นตัวแล้ว หลังจากที่ปรับตัวลดลงมาแล้วถึง 4 ไตรมาสติด หากตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางที่ BOJ ประเมินไว้ การขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้
อ้างอิง: