เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญาของสเปนประกาศสั่งอพยพผู้ค้นให้ออกห่างจากบริเวณโบสถ์ลา ซากราดา เด ฟามิเลีย (La Sagrada de Família) หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง หลังตรวจพบรถตู้ต้องสงสัยที่อาจจะก่อเหตุไม่คาดคิดอย่างกรณีขับพุ่งชนกลุ่มคนเดินเท้าหรือบรรทุกระเบิดขึ้นอีก
ทวิตเตอร์ของ Mossos เจ้าหน้าที่ตำรวจเเคว้นกาตาลุญญา ได้ทวิตข้อความว่า
“ถ้าคุณอาศัยอยู่บริเวณใกล้กับโบสถ์ลา ซากราดา เด ฟามิเลีย ขอให้พวกคุณอยู่แต่เพียงภายในที่พัก อยู่ในความสงบและติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังควบคุมสถานการณ์ให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”
เวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบรถต้องสงสัยที่ขับเข้ามาในย่านที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังและต่อต้านปฏิบัติการก่อการร้าย ก่อนที่จะยืนยันว่า “การประกาศเตือนและสั่งอพยพผู้คนนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด” และไม่มีผู้ถูกจับกุมจากเหตุการณ์ครั้งนี้
การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในเมืองนี้มีขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมคนร้ายขับรถตู้พุ่งเข้าชนกลุ่มคนเดินเท้าที่กำลังเดินท่องเที่ยวอยู่ในย่านลาส รัมบลัส (Las Ramblas) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 16 คนและมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
โมฮัมเหม็ด เฮาลี เชมลัล (Mohamed Houli Chemlal) วัย 21ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในครั้งนั้นให้การยืนยันต่อศาลสเปนว่า กลุ่มของพวกเขาวางแผนที่จะระเบิดเมืองแห่งนี้ในหลายจุดสำคัญ ก่อนที่จะเกิดเหตุที่ลาส รัมบลัส ก็มีการจงใจระเบิดบ้านหลังหนึ่งในอัลกานาร์ เป็นเหตุให้ผู้สมรู้ร่วมคิดเสียชีวิต 2 คนในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้เขายังรับสารภาพว่า โบสถ์ลา ซากราดา เด ฟามิเลียคือหนึ่งในสถานการณ์ที่ที่ตกเป็นเป้าของการวางระเบิดของกลุ่มเขาด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังจุดสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเข้มงวด
เหตุก่อการร้ายที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ส่งผลให้สเปนเป็นหนึ่งประเทศที่ยกระดับการเฝ้าระวังเหตุก่อการร้ายต่ำกว่าระดับสูงสุดเพียง 1 ระดับเท่านั้น นับตั้งแต่กลางปี 2015
Photo: Pascal Guyot/AFP
อ้างอิง: