บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดรายงานผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2562 พบมีรายได้รวม 45,188 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 1,011 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนราว 62% (กำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2561 ของบ้านปูฯ: ประมาณ 2,665 ล้านบาท) เผยความคืบหน้ากลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานยังเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter
สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน เมื่อเร็วๆ นี้ ซันซีป กรุ๊ป (Sunseap Group Pte. Ltd.) บริษัทร่วมค้าของบ้านปูฯ สามารถเปิดดำเนินการโรงพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์ กำลังการผลิต 168 เมกะวัตต์ ที่นินห์ถ่วน ประเทศเวียดนามได้สำเร็จ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวรวม 65 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบ้านปูฯ ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จีซิน ขนาดกำลังผลิต 25 เมกะวัตต์ ในมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2562 และยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานตามสัดส่วนการลงทุนรวม 3 กิกะวัตต์
สำหรับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน บ้านปูฯ ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด (บริษัทย่อยของบ้านปูฯ) ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการวางระบบ Solar Rooftop บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ และอาคารจอดรถ 2-3 ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีกำลังการผลิตรวม 1 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ปัจจุบันบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 89 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัท Durapower Technology (Singapore) Pte. Ltd. ในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (LiB) ในอุตสาหกรรมยานยนต์และระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบ้านปูฯ ยังได้ขยายกำลังการผลิตของโรงงานที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว (Suzhou)สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มจาก 80 เมกะวัตต์ชั่วโมง เป็น 380 เมกะวัตต์ชั่วโมง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปูฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง
สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในครึ่งปีแรก บ้านปูฯ มีความคืบหน้าด้านการลงทุนในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่าง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ตลอดจนเดินหน้าวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภายใน รวมถึงการมอบโซลูชันด้านพลังงานในรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
สำหรับกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน บ้านปูฯ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารต้นทุนในธุรกิจถ่านหินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง โดยได้ตั้งงบประมาณการลงทุนประมาณ 15,794 ล้านบาทเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองการผลิตในปี 2562-2563 โดยเน้นลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงกับแหล่งการผลิตเดิม ซึ่งคาดว่ากระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ได้อย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการบริหารกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2562 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดรวมประมาณ 25,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดสิ้นปี 2561 จำนวน 5,909 ล้านบาท หรือ 31% ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการจ่ายเงินกู้ การจ่ายเงินปันผล และการลงทุนตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโลก และสร้างผลตอบแทนระยะยาวแก่นักลงทุน”
ทั้งนี้ เมื่อจำแนกเฉพาะผลการดำเนินงานของบ้านปูฯ ในไตรมาส 2/2562 จะพบว่าบริษัทมีรายได้จากการขายรวมประมาณ 23,092 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิประมาณ 95 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าราว 97.6% (กำไรสุทธิไตรมาส 2/2561 ของบ้านปูฯ อยู่ที่ 4,112 ล้านบาท) เนื่องจากราคาขายถ่านหินในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง ประกอบกับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
