×

‘กลุ่มบ้านปู’ เดินหน้ากลยุทธ์ Greener & Smarter เข้าซื้อโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม 50 เมกะวัตต์ มูลค่า 788 ล้านบาท

02.12.2021
  • LOADING...
กลุ่มบ้านปู

กลุ่มบ้านปูเดินหน้ากลยุทธ์ Greener & Smarter มุ่งสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านขององค์กร เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านแหล่งพลังงาน ล่าสุด BANPU และ BPP ได้ร่วมกันเข้าซื้อหุ้นบริษัท Ha Tinh Solar Power Joint Stock company ในสัดส่วน 100% คิดเป็นมูลค่าลงทุน 788 ล้านบาท

 

บมจ.บ้านปู (BANPU) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท BRE Singapore Pte. Ltd (BRES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปูเน็กซ์ จำกัด ที่ BANPU และบมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ถือหุ้นเท่ากันที่ 50% ได้ลงนามสัญญาเข้าลงทุน 100% ในบริษัท Ha Tinh Solar Power Joint Stock company ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ha Tinh ณ จังหวัดฮาติงห์ ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 23.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าประมาณ 788 ล้านบาท โดยการลงทุนครั้งนี้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในสัญญา และการรอได้รับอนุมัติจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/65

 

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ha Tinh เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2562 มีราคารับซื้อไฟฟ้า (FIT) ที่ 9.35 เซนต์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นระยะเวลา 20 ปี

 

การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ BANPU มีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย เวียดนาม และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,128 เมกะวัตต์ ซึ่งเปิด COD แล้วตามสัดส่วนการลงทุน 880 เมกะวัตต์ 

 

BANPU ระบุว่า การลงทุนในครั้งนี้เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัท รวมทั้งเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านขององค์กร (Banpu Transformation) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 โดยเน้นการลงทุนในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล

 

กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP กล่าวว่า การลงทุนของ BPP ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ha Tinh ในเวียดนาม ถือเป็นการต่อยอดการเติบโตของพอร์ตพลังงานหมุนเวียนของ BPP ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter โดยเป็นครั้งแรกที่บริษัทลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม ซึ่งนอกจากจะเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่บริษัทดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมอยู่แล้ว ยังมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงและมีนโยบายสนับสนุนด้านพลังงานหมุนเวียนที่ชัดเจนจากภาครัฐอีกด้วย 

 

ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าแห่งนี้ยังเป็นไปตามทิศทางการลงทุนของบริษัท รวมทั้งมีข้อดีหลายประการ เช่น เป็นสินทรัพย์ที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว (Operating Asset) ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2562 มีราคารับซื้อไฟฟ้า (FIT) ที่ 9.35 เซนต์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นอัตราที่ดี รวมทั้งมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity: EVN) ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นระยะเวลา 20 ปี

 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา BPP ยังได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Kesennuma ในญี่ปุ่น ขนาดกำลังผลิต 20 เมกะวัตต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ปัจจุบัน BPP มีกำลังผลิตตามไฟฟ้าสัดส่วนการลงทุนรวม 3,357 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยบริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์อีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Shirakawa ในญี่ปุ่น กำลังผลิต 10 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Vinh Chau ระยะที่ 1 ในเวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะ COD ในไตรมาส 1/65

 

การลงทุนดังกล่าวตอกย้ำการเติบโตตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งลงทุนในสินทรัพย์ที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนความมุ่งมั่นในการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ในสัดส่วนที่สมดุลระหว่างพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียน เพื่อบรรลุเป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ โดยมาจากพลังงานหมุนเวียน 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising