ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 กุมภาพันธ์) ช่วงเช้าดัชนีปรับตัวในทิศทางที่สดใส โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 14 จุด ซึ่งทำให้ดัชนีขึ้นมาแตะระดับ 1,500 จุดได้อีกครั้ง แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมา จนกระทั่งมาปิดตลาดที่ระดับ 1,481.75 จุด ลดลง 4.50 จุด หรือ 0.30% มูลค่าการซื้อขายรวม 79,484 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นจะปิดตลาดในแดบลบ แต่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ถือเป็นกลุ่มที่มีแรงซื้อเข้ามาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 2.65% ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เพิ่มขึ้น 1.91% และธนาคารกรุงเทพ (BBL) เพิ่มขึ้น 1.32%
ธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับขึ้นในวันนี้ (3 กุมภาพันธ์) โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ใหญ่ ซึ่งสามารถยืนอยู่ในแดนบวก ได้แรงหนุนจากการที่ กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ทำให้นักลงทุนบางส่วนคลายความกังวลว่า กำไรของกลุ่มอาจจะถูกกดดัน หากดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับลดลง
“แน่นอนว่าถ้ามีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ย่อมเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ใหญ่ที่ NIM อาจจะถูกกดดัน แต่เมื่อดอกเบี้ยถูกคงไว้ ทำให้ตลาดคลายความกังวลไปได้”
ทั้งนี้ มองว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ยังมีอัปไซด์อยู่สำหรับปีนี้ ด้วยปัจจัยบวกสำคัญคือค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองฯ ที่ลดลง จากเมื่อปีก่อนที่แบงก์ตั้งสำรองค่อนข้างสูง โดยคาดว่าปีนี้การตั้งสำรองฯ จะลดลง 13% จากปีก่อน ซึ่งจะทำให้กำไรฟื้นตัวในปีนี้
ในแง่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ แต่ละบริษัทยังมีอัปไซด์จากราคาเป้าหมาย โดยปัจจุบันค่า P/BV ของกลุ่มอยู่ที่ 0.8 เท่า แต่หากไม่รวม TISCO ซึ่งขายส่วนของแบงก์ให้กับ TMB ไปแล้ว ค่า P/BV ของกลุ่มแบงก์จะอยู่ที่เพียง 0.6 เท่า
“ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์แต่ละไตรมาสในปีนี้น่าจะฟื้นตัวได้ YoY จากปีก่อน ส่วนไตรมาส 1 นี้ กำไรของกลุ่มอาจจะอ่อนตัวลงเนื่องจากไตรมาส 4 ปีก่อน กำไรของกลุ่มฟื้นตัวดีเนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลงไปมากของ KBANK”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์ นารา พักตร์เพียงจันทร์