การเติบโตของมูลค่าคริปโตฯ จาก 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 4.8 แสนล้านบาท ในช่วง 5 ปีก่อน ขึ้นมาแตะระดับ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 70 ล้านล้านบาทในปัจจุบันได้สำเร็จ ซึ่งในทางหนึ่งได้กลายเป็นความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง
มูลค่าที่เพิ่มขึ้นทำให้ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (Bank of England) ออกโรงเตือนว่า ประเด็นดังกล่าวอาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ เพราะมูลค่าของคริปโตฯ ได้มากกว่า ‘หนี้ซับไพรม์’ ถึง 2 เท่าตัว ซึ่งหนี้ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2008 โดยมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 36 ล้านล้านบาท
จอห์น คันลิฟฟ์ รองผู้ว่าการด้านความมั่นคงทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ระบุว่า แม้หนี้จำนวนดังกล่าวจะไม่เป็นจำนวนที่สูงมากเมื่อเทียบกับหนี้ทั่วโลกที่จำนวน 250 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 7.5 พันล้านล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม มันอาจจะเกิดภาวะโดมิโนก็เป็นไปได้ จากวิกฤตการเงินของตลาดขนาดเล็กไปสู่ภาวะวิกฤตของตลาดการเงินขนาดใหญ่
ขณะเดียวกันการเติบโตของตลาดคริปโตฯ ที่เป็นไปอย่างรวดเร็วนั้น ดูเหมือนว่าจะเริ่มเชื่อมเข้าสู่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีตั้งแต่นักลงทุนสกุลเงินดิจิทัล, นักลงทุนที่ใช้อัตราทด (Leverage) การลงทุน รวมไปถึงพื้นที่ในโลก DeFi ที่ปราศจากการควบคุมของกฎหมาย ที่อาจจะกำลังนำไปสู่ความเสี่ยงของระบบ
รองผู้ว่าการของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษปิดท้ายว่า “การกำกับดูแลควรเป็นเรื่องเร่งด่วน” และยังได้นำคำพูดของประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ มาเสริมอีกว่า “ความก้าวหน้าในระบบการเงินตลอดยุคสมัยที่ผ่านมา ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากการกำกับดูแล”
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ออกมาส่งสัญญาณว่ารัสเซียอาจพิจารณาลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน หากสหรัฐฯ ยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตร โดยเจาะจงเป้าหมายมาที่รัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ต่อข้อซักถามที่ว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะหันไปพึ่งเงินคริปโตฯ แทนดอลลาร์เพื่อซื้อขายน้ำมันหรือไม่ ผู้นำรัสเซียระบุชัดว่า โดยส่วนตัวค่อนข้างยอมรับสถานะของสกุลเงินดิจิทัลในระบบการเงิน และเห็นว่าสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าในตัวเอง เพียงแต่ยังไม่เชื่อว่าคริปโตฯ ยังสามารถนำมาใช้ในการซื้อขายน้ำมันได้ในเวลานี้ พร้อมย้ำว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจใช้คริปโตฯ ซื้อขายน้ำมัน
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีปูตินเข้าร่วมอีเวนต์ Russian Energy Week ที่กรุงมอสโก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 ตุลาคม)
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP