รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่าปี 2564 นี้มองทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าโดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 28.75-30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้มองว่าค่าเงินบาทแข็งค่าจากปัจจัยนอกประเทศเป็นหลัก ทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะใช้นโยบายที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษและเป็นระยะเวลานาน ซึ่งนักลงทุนในตลาดต้องการท่าทีและความชัดเจนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ รวมถึงไม่ถอนมาตรการ QE แม้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเงินเฟ้อจะฟื้นตัวขึ้นจากมาตรการการเงินและการคลังชุดใหญ่ที่จะออกมาระยะถัดไป
ในสถานการณ์นี้จะกดดันอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกรุงศรีมองว่าท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีน้ำหนักและสำคัญมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หรือในกรณีที่เห็นแนวโน้มเงินเฟ้อและ Nominal Yield ของสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ปี 2564 ต้องติดตามการฟื้นตัวของการค้าโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลังวิกฤตสาธารณสุข รวมถึงสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ว่าจะมีการเผชิญหน้าที่ลดลงในยุค โจ ไบเดน ที่จะเป็นผลบวกต่อประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพาการส่งออกสูง
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้สะท้อนปัจจัยนี้ไปบ้างแล้ว เห็นได้จากเงินหยวนของจีนที่แข็งค่านำสกุลเงินภูมิภาคในปีที่ผ่านมา และคาดว่าในช่วงต้นของการดำรงตำแหน่ง ผู้นำสหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับการลดการแพร่ระบาดเป็นอย่างแรก
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ กรุงศรีมองว่าปี 2564 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับตะกร้าเงินหลักจะอ่อนลงราว 4-5% แต่เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นราว 2.5% ภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนสูงในการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยว ซึ่งจะจำกัดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดให้อยู่ใกล้เคียงกับการเกินดุลในปี 2563
ทั้งนี้ จากโครงสร้างและการเติบโตเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับประเทศในตลาดเกิดใหม่อาจทำให้ไทยไม่ได้อานิสงส์จากกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผันผวนสูง (เงินไหลกลับเข้ามา) ในไทยอย่างเต็มที่ โดยบรรยากาศการลงทุนคาดว่าจะผันผวนตามสถานการณ์โควิด-19 และปัจจัยเรื่องวัคซีนที่ล่าช้าเมื่อเทียบกับกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าค่าเงินบาทในแต่ละไตรมาสจะยังแข็งค่าต่อเนื่อง ดังนี้
ณ สิ้นไตรมาส 1/64 จะอยู่ที่ 29.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ณ สิ้นไตรมาส 2/64 จะอยู่ที่ 29.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ณ สิ้นไตรมาส 3/64 จะอยู่ที่ 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
และณ สิ้นไตรมาส 4/64 จะอยู่ที่ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้าดูแลค่าเงินบาทเป็นระยะเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด แม้ไทยถูกเพิ่มชื่อใน Monitoring List ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อปลายปีก่อน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
