เหตุนักศึกษาประท้วงในบังกลาเทศยังคงวิกฤตหนัก โดยทางการบังคับใช้เคอร์ฟิวและมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ‘ยิงทันที’ หากมีผู้ที่ฝ่าฝืนในกรณีร้ายแรง เพื่อหวังปราบปรามเหตุจลาจลที่เป็นเหตุให้ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนแล้ว
บังกลาเทศประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันศุกร์ (19 กรกฎาคม) ตามเวลาท้องถิ่น และสิ้นสุดลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 กรกฎาคม) ท่ามกลางทหารจำนวนมากที่เดินลาดตระเวนตามถนนในกรุงธากา โดยวานนี้ (20 กรกฎาคม) ทางการได้มีการผ่อนปรนเคอร์ฟิวช่วงสั้นๆ เพื่อให้ประชาชนได้ออกไปทำกิจธุระที่จำเป็น แต่หลักๆ แล้วประชาชนจะต้องอาศัยอยู่ในบ้าน ห้ามออกมาชุมนุมหรือเดินขบวนประท้วงโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ทางการยังได้สั่งตัดการสื่อสาร บล็อกอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียตั้งแต่ช่วงคืนวันพฤหัสบดี (18 กรกฎาคม)
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า แม้รัฐบาลบังกลาเทศจะไม่เปิดเผยตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แต่สื่อท้องถิ่นประเมินความเสียหายว่าอาจมีผู้บาดเจ็บนับพันคน ขณะยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 115 คน โดยวันศุกร์เป็นวันที่มียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงสูงสุดที่ราว 40 คน ขณะมีรายงานว่าตำรวจใช้กระสุนจริงต่อผู้ประท้วง
เหตุประท้วงที่กำลังลุกลามไปทั่วประเทศครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการประท้วงที่รุนแรงสุดในรอบกว่าทศวรรษของบังกลาเทศ โดยชนวนเหตุเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือน หลังนักศึกษาออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลรื้อโควตาการจ้างงานที่สงวนงานราชการมากถึง 30% ไว้ให้กับญาติของทหารผ่านศึกที่ต่อสู้ในสงครามประกาศเอกราชของบังกลาเทศเมื่อปี 1971 พวกเขามองว่าโควตาดังกล่าวสงวนงานไว้ให้เพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ อีกทั้งยังเอื้อประโยชน์ให้กับพรรครัฐบาลสันนิบาตอวามี (Awami League) ของนายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา (Sheikh Hasina)
แต่มาในสัปดาห์นี้ การประท้วงได้ลุกลามจากเดิมที่มีการประท้วงแค่ภายในมหาวิทยาลัย และบานปลายสู่การต่อต้านรัฐบาลฮาสินาซึ่งปกครองบังกลาเทศมาตั้งแต่ปี 2009 โดยผู้ประท้วงมองว่ารัฐบาลของฮาสินาปกครองแบบอำนาจนิยม ตำรวจใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ และมีการทุจริตคอร์รัปชัน ขณะที่เศรษฐกิจของบังกลาเทศยังคงได้รับผลกระทบหนักลากยาวมาตั้งแต่ช่วงที่โควิดระบาด ทำให้ประชาชนว่างงานหลายสิบล้านคน ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์
ภาพ: AFP
อ้างอิง: